บี บางปะกง
นี่เป็นบทความชิ้นแรก ที่ผมเขียนลง “ไทยรัฐออนไลน์” อย่างเป็นทางการ
ปกติคอลัมน์ประจำของตัวผมเองจะอยู่ในหน้ากระดาษ “หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เป็นหลัก จนเป็นที่คุ้นชินของพระเดชพระคุญท่านทั้งหลายมาแล้วกว่า 20 ปี
หลายคนคงจะพอทราบว่า ผมมีปัญหาสุขภาพมาเกือบ 3 ปีแล้ว
หลังล้มป่วยด้วยอาการ “เส้นเลือดสมองแตก” หรือ “Stroke” จนหวิดจะเอาชีวิตไม่รอด
ย้ำอีกครั้งว่ามัน “แตก” นะครับ ไม่ใช่ “ตีบ”
เพียงแต่มันไม่ได้แตกดังโพละ! เหมือนที่หลายคนจินตนาการ
แต่มันค่อยๆ ซึมออกมาเหมือนท่อน้ำปริร้าว ยังไง ยังงั้น !!
ยังโชคดี ที่การแตกครั้งนี้มันไม่ได้โดนแกนสมอง เพียงแต่เฉี่ยวไปแค่ไม่กี่เซนต์
ผมเลยรอดตัวไม่ต้องนอนเป็น “มนุษย์ผัก” เหมือนผู้โชคร้ายอีกหลายๆ คน
แต่แค่นี้มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตผมไปอย่างสิ้นเชิงแล้วล่ะ
โดยเฉพาะสภาพร่างกาย ที่ต้องตกอยู่ในสภาพ “กึ่งพิการ” ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงไปครึ่งซีก
ทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันค่อนข้างยากลำบากอยู่พอสมควร
ต้องขอบคุณชายคาหัวเขียว “ไทยรัฐ” ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังแรก และหลังเดียวของผมในอาชีพสื่อ
ที่ให้โอกาสและเปิดพื้นที่ให้ได้มาขีดเขียนเรื่องราวต่างๆ ให้ทุกท่านได้อ่านกันเป็นประจำทุกสัปดาห์
ต่อไปนี้ “บี บางปะกง” จะมารับใช้ท่านบนหน้าจอ “ไทยรัฐออนไลน์” ทุกๆ วันจันทร์นะครับ
หรือถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่มันอัปเดตเป็น Hot issue ในวงการกีฬา ก็อาจจะแทรกเข้ามา (แจม) บ้างตามแต่สถานการณ์
ซึ่งนอกจากจะพบกันทางออนไลน์ และหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนอย่างเคยมาแล้ว
ปีนี้คุณหมอยังแนะนำให้ผมใช้โซเชียล “บำบัดตัวเอง” อย่างเต็มรูปแบบ
ด้วยการไลฟ์สดผ่างเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว “บี บางปะกง - Bebangpakong” ที่ผมเปิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่
ที่ผ่านมา 2 เดือน ผมใช้เวลาว่างยามค่ำคืนทดลอง Live พูดคุยกับเพื่อนๆ มาอย่างต่อเนื่อง
พูดชัดมั่ง ไม่ชัดมั่ง หรือบางครั้งอาจมีปากเบี้ยวให้เห็นนิดหน่อย
ก็พยายามจะฝืนคุยไปให้ได้..อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง
ช่วงหลังค่อยยังชั่วหน่อย ได้เพื่อนฝูงและผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการกีฬา ที่กำลังเว้นว่างภารกิจช่วง “โควิด-19” ตามนโยบาย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” โฟนอินเข้ามาร่วมพูดคุยด้วยแทบทุกวัน
การไลฟ์สดก็เลยมีเนื้อหาสาระที่หลากหลายมากขึ้น แถมมีประเด็นดีๆ ที่สามารถจับเอามาเขียนเป็นข่าวได้อย่างมากมาย
หลากเรื่องราวที่แขกรับเชิญมาทอล์กให้ฟังแบบสดๆ ทำให้ผมได้วัตถุดิบมาเก็บไว้ในคลังสมองเพียบ
ซึ่งจะค่อยๆ ผ่องถ่ายออกมาเขียนให้อ่านกันใน “ไทยรัฐออนไลน์” ตรงนี้
เชื่อว่าการ “บำบัดตัวเอง” จะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง
ไม่มากก็น้อยครับ !!!