ตองเจ
ไวรัส “โควิด-19” ยังเป็นปัญหา ใหญ่ที่ทั่วโลกยังหวาดหวั่นสะพรึง กลัว เพราะจนถึงล่าสุดยังไม่มียาหรือวัคซีนที่จะมารักษาให้หายขาดได้อย่างเป็นทางการ
ส่งผลให้ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อทะลุ 2 ล้านคนเข้าไปแล้ว เสียชีวิตก็หลายแสนคน
สำหรับประเทศไทยนับเป็นข่าวดีที่จำนวนผู้ติดเชื้อเหลือเลขตัวเดียวแล้ว แต่ก็อย่าประมาทกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมโดยขาดการป้องกัน การใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ ก็เป็นหนทางที่ทำให้เราห่างไกลจากโควิด
ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยลดลงแต่การจัดกิจกรรมต่างๆ ในเรื่องของกีฬาก็ยังไม่สามารถ
ดำเนินการ แม้ภาครัฐจะเริ่มผ่อนปรนให้กีฬาบางประเภทสามารถจัดได้ แต่โดยรวมแล้วก็ยังไม่เต็มที่
อย่างที่บอกไวรัสโควิด-19 น่ากลัวมาก จนทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการคุมเข้มทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศใช้เคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านหลังจาก 22.00 น.
แต่ถ้าคิดในแง่ดี “โควิด-19” สามารถทำให้คนสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้อย่าง
ไม่น่าเชื่อ แม้จะเป็นแบบบังคับก็ตาม
ซึ่งปกติวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คนส่วนใหญ่มักจะออกไปเดินช็อปปิ้ง ตากแอร์ ดูหนังตามห้างสรรพสินค้า แต่ตอนนี้ทุกคนต้องอยู่กับบ้านมีกิจกรรมกับครอบครัวมากขึ้น
แถมกลางคืนก็รีบกลับบ้านนอน ไม่มีการออกไปเที่ยวย่ำรุ่ง ทำตัวเป็นเหยี่ยวราตรีเหมือนเมื่อก่อน
จนทำให้มีเวลาหันมาออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงต่อสู้กับเชื้อโควิด-19
ส่วนคนที่ตกงานก็ต้องกลับถิ่นฐานภูมิลำเนาเดิมหันมาประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ทำตัวแบบโลว์โปรไฟล์อยู่กับธรรมชาติเหมือนในยุคอดีตกาล
นอกจากนี้ นักกีฬาหลายคนก็เริ่มออกมาตัดพ้อว่ารายได้ที่เคยมีอย่างเป็นกอบเป็นกำจากการตระเวนแข่งขันทั้งปีเริ่มลดลงเพราะทั่วโลกต้องหยุดชะงัก
เอ! หรือนี่คือบทเรียนครั้งสำคัญที่ธรรมชาติอยากสอนให้คนได้รู้ว่าการอยู่แบบพอเพียงไม่ต้องดิ้นรนจะทำให้เราไม้ต้องเหนื่อย
ที่สำคัญร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เหมือนในอดีตที่คนยุคเก่าๆ มักจะนอนแต่หัวค่ำจนทำให้มีอายุที่ยืนยาวร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยมีโรคมาเบียดเบียนเหมือนในปัจจุบัน
แต่อย่างหนึ่งที่เชื่อคือหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลงแล้ว พฤติกรรมของคนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ทุกอย่างอาจจะย้อนยุคไปเหมือนในอดีตให้ความสำคัญกับธรรมชาติและหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น
เอาเถอะครับ จะอย่างไรก็ตามนั่นก็คือการคิดแบบปลอบใจตัวเองเพื่อให้วันเวลาที่แสนเจ็บปวดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
และก็ยังภาวนาให้ไวรัสโควิด–19 หมดไปจากโลกนี้แบบไม่ต้องหวนคืนมา เพื่อให้กิจกรรม
ทุกคนสามารถดำเนินไปตามโปรแกรมที่วางไว้
เพราะสิ่งหนึ่งที่ต้องอยู่กับเราคือ “ชีวิตที่ต้องเดินต่อไป”.
ตองเจ