หน้าแรกแกลเลอรี่

สมาคมบาสฯ พร้อมสู้ศึกปี 2020 ทีมชาย-หญิง มีงานใหญ่รอเพียบ

ไทยรัฐออนไลน์

28 ม.ค. 2563 21:30 น.

"เฮียต่าย" กางแผนสมาคมยัดห่วง นักกีฬาไทยมีรายการให้ลุยเพียบตลอดปี 2020 ทีมชายเตรียมแข่ง 2 ลีกอาชีพ "ทีบีแอล" และ "ทีพีบีแอล" ส่วนทีมหญิงเตรียมเปิดตัว "ยูลีก" ที่จะเป็นการรวมตัวกันของนักกีฬามหาลัย และผู้เล่นทีมชาติ ส่วนทีมชาติไทย เตรียมบู๊ 2 รายการสำคัญ "ฟีบ้า เอเชีย คลับ" รอบ 3 ที่จะไปเยือนกรุงมะนิลา และกรุงโซล รวมทั้งการร่วมศึก 3x3 หญิง ชิงแชมป์โลก รุ่นยู-23 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ วอนทุกฝ่ายอย่ามีเงื่อนไขกับสมาคมฯ เชื่อมั่น หากร่วมมือกันจะต้องทำฝันของวงการบาสฯ ไทยสำเร็จ...

วันที่ 28 ม.ค. 63 นายนิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนงานของสมาคมฯ ประจำปี 2020 ว่า สมาคมฯ มีภารกิจมากมายที่มุ่งหวังจะส่งเสริมกีฬาบาสเกตบอลของประเทศ ให้แตกหน่อขยายรากฐานออกเป็นวงกว้างมากขึ้น และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ โดยในส่วนของการจัดแข่งขันภายในประเทศนั้น มีมากมายหลากหลายรายการ ซึ่งในส่วนของไฮไลต์สำคัญๆ หรือรายการใหญ่ๆ จะแบ่งออกเป็นของประเภทชายและหญิง โดยประเภทชายใหญ่ที่สุด และจัดมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อดีตแล้วก็คือ บาสเกตบอลลีกอาชีพ หรือ "ทีบีแอล" ซึ่งแชมป์ของรายการนี้จะได้โควตาไปแข่งบาสเกตบอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย

"ในปี 2020 จะจัดการแข่งขันลีกอาชีพขึ้นมาอีก 1 รายการ นั่นคือ "ทีพีบีแอล" ซึ่งเป็นรายการของฝ่ายพันธมิตร ต้องการที่จะสร้างลีกไทยให้แข็งแกร่งขึ้น และสมาคมฯ ก็พร้อมจะสนับสนุน แต่ลีกอาชีพทั้ง 2 รายการจะต้องมีระยะเวลาแข่งไม่ชนกัน รวมทั้งมีลีกรองที่ขยายรากฐานไปถึงนักกีฬาเยาวชนและสมัครเล่น ให้นักกีฬาต่างจังหวัดเขาได้มีโอกาสแสดงความสามารถและพัฒนาทักษะฝีมือ นอกจากนี้ประเภททีมชายยังมีการจัดแข่ง "ไทยแลนด์ โอเพน" ที่แต่ละทีมจะส่งนักกีฬาสัญชาติไทยเข้าแข่งเท่านั้น ยกเว้นให้แต่บางทีมที่สามารถส่งเด็กเยาวชนที่เป็นนักกีฬาลูกครึ่งลงแข่งได้ ส่วนอีก 1 รายการสำคัญคือ "ซูเปอร์ลีก" ที่จะมีทีมไทยร่วม 2 ทีม และเชิญทีมอาเซียนมาร่วม 6 ทีม" นายกสมาคมฯ กล่าว

นอกจากนี้ "เฮียต่าย" กล่าวอีกว่า ด้านประเภททีมหญิง มี 3 รายการใหญ่ๆ คือ การแข่งขันบาสเกตบอล "ยูลีก" ที่แต่ละทีมจะเป็นทีมนักกีฬามหาวิทยาลัย บวกกับประชาชนทั่วไป ที่อาจจะเป็นนักกีฬาทีมชาติหรือไม่ก็ได้ ทีมละ 2 คน ในส่วนนี้สมาคมฯ มุ่งหวังเพื่อช่วยให้นักกีฬาทีมชาติได้มีเกมแข่งขันมากขึ้น เพราะในประเภทนักกีฬาหญิงตนมองว่ารายการให้พวกเขาได้พัฒนาฝีมือยังน้อยมาก ในเรื่องนี้ค่อนข้างไม่พอใจการดำเนินงานของทางฟีบ้า ที่ไม่ได้จัดรายการให้แข่งสำหรับผู้หญิงได้มากเท่าที่ควร มันจะส่งผลเสียให้แก่นักกีฬาบาสเกตบอลหญิงทั่วทั้งเอเชีย ส่วนอีก 2 รายการที่ไทยจะจัดคือ "ทีโอเอ" รายการนี้จะเป็นการแข่งขันในรุ่นเยาวชน 14, 16 และ 18 ปี ทั่วประเทศไทย ทั้งทีมหญิงและทีมชาย ซึ่งจัดติดต่อกันมาหลายปี และอีกรายการคือ บาสเกตบอล สิงห์ 3x3 ที่เป็นการชิงแชมป์ทั่วประเทศไทยทั้งหญิงและชายเช่นกัน

"ส่วนเรื่องของการรับเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันนั้น ทางสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย จะขอทางฟีบ้าเป็นหน้าเสื่อจัด 2 รายการในปีนี้ ประกอบด้วย บาสเกตบอลชายสโมสรชิงแชมป์เอเชีย ที่สโมสรไทยเครื่องสนาม จะเป็นตัวแทนประเทศไปร่วมแข่งขัน และรายการใหญ่อย่าง บาสเกตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รวมทั้งการมองไปที่ขอเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันบาสเกตบอล ยู-18 หญิงชิงแชมป์เอเชีย 2021 ในปีหน้าด้วย เพราะอย่างที่กล่าว หากฟีบ้าไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร หรือยังเงียบในเรื่องของการพัฒนาบาสเกตบอลหญิง สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ก็ขอเป็นหน้าเสื่อจัดแข่งขันเอง" นายนิพนธ์ กล่าว 

นายกสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของโปรแกรมนักกีฬาทีมชาติไทย ที่จะให้แฟนๆ ยัดห่วงได้ติดตามในปีนี้นั้น จะเป็นรายการ บาสเกตบอลชาย ฟีบ้า เอเชีย คลับ ที่ทีมไทยผ่านคู่แข่งได้ 2 รอบ และทะลุเข้าถึงรอบ 3 ได้แล้ว โดยในรอบดังกล่าวจะต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับ เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ซึ่งค่อนข้างหนัก แต่รอบนี้จะนำ 3 ทีมผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ทีมไทยจึงยังมีความหวัง หากเอาชนะอินโดนีเซีย ซึ่งน่าจะเบาที่สุดใน 3 ทีมคู่แข่งลงได้ อีกทั้งรอบนี้จะแข่งแบบเหย้าเยือนยาวไปจนถึงปีหน้า โดยปีนี้จะมี 3 เกม ซึ่ง 2 เกมแรกจะแข่งในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ไทยไปเยือนฟิลิปปินส์ ที่กรุงมะนิลา และวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ไทยไปเยือนเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล จากนั้นจะเว้นยาวถึงเดือนพฤศจิกายน ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพรับมืออินโดนีเซีย

"ส่วนอีก 1 รายการสำคัญที่อยากให้คนไทยติดตามนั่นคือ ทีมบาสเกตบอลหญิง 3x3 ทีมชาติไทยสามารถทำผลงานผ่านการควอลิฟายน์ไปร่วมแข่งศึก 3x3 ชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตนคิดว่าทีมไทยสู้ได้ ซึ่งนับจากนี้เป็นตนไปทางสมาคมฯ จะเน้นเต็มกำลังเพื่อผลักดันให้ทีมบาสฯ ไทยทั้ง 5x5 และ 3x3 ควอลิฟายเข้าร่วมแข่งขันในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ รวมทั้งยูธโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ ซึ่งในครั้งนี้ที่กำลังจะจัดขึ้น อาจจะไม่ทัน แต่ในการจัดอีก 4 ปีข้างหน้า มีโอกาสแน่ โดยเฉพาะบาสฯ 3x3 ไทยที่แข็งแกร่งจนหลายชาติเอ่ยปากชมมาแล้ว" ประมุขยัดห่วงไทย กล่าว 

ทั้งนี้ นายนิพนธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปี 2020 ตนต้องการทำให้วงการบาสฯ ไทยขยายตัวมากกว่าเดิม ตนได้รับทราบจากผู้ใหญ่ ถึงความต้องการที่อยากจะให้นักกีฬาไทยมีการแข่งขันอาชีพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตนสามารถทำได้แล้ว อยากจะขอให้ทุกฝ่ายอย่ามีเงื่อนไขกับตนและสมาคมฯ เลย เพราะเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือไปด้วยกัน "เราสามารถทำความฝันของวงการบาสฯ ไทยสำเร็จได้แน่"