ไทยรัฐออนไลน์
สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย แถลงนโยบายปี 2563 รัดกุม หวังสร้างสอยคิวสายเลือดทั้งชายและหญิง ยืนยันจัดแข่ง 6 แดงชิงแชมป์ประเทศไทย ประเภทหญิง พร้อมกับสร้างนักสอยคิวระดับเยาวชนอย่างจริงจัง ขณะที่รายการ 6 แดงชิงแชมป์โลกยืนยันยังมีอย่างแน่นอน โดยการันตีไม่เกิน 4 ปี มีดาวดวงใหม่เดินตามรอย “เอฟ นครนายก และ หมู ปากน้ำ ค่อนข้างชัวร์
วันที่ 26 ธ.ค.62 นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการบริหาร ได้ประชุมร่วมกัน เพื่อสรุปผลงานในการแข่งขันสนุกเกอร์ตลอดปี พ.ศ. 2562 พร้อมกับคลอดโปรแกรมการแข่งขันสนุกเกอร์-บิลเลียดและพูล ประจำปี 2563 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย “บิ๊กฮง" กล่าวว่า ”ในปี พ.ศ. 2562 สมาคมฯได้ส่งนักกีฬาเดินทางไปแข่งขันรายการนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ในเดือน กันยายน “มิงค์ สระบุรี” หรือ ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย นักสนุกเกอร์สาวไทยวัย 19 ปี คว้าแชมป์สนุกเกอร์ 6 แดงหญิงชิงแชมป์โลก ได้เป็นครั้งแรกที่ประเทศเมียนมาร์ หลังจากนั้นในเดือน พฤศจิกายน สุชาครี พุ่มแจ้ง (ขวัญ สระบุรี) เดินทางไปคว้าแชมป์โลก สนุกเกอร์ 15 แดง ประเภทมาสเตอร์ ที่ประเทศตุรกี ปิดท้ายด้วยการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา กฤษณัส เลิศสัตยธร หรือ นุ้ก สงขลา ก็คว้าเหรียญทองสนุกเกอร์ 15 แดง ซีเกมส์ มาครองได้อีกเช่นเดียวกัน ผลงานในปี 2562 สามารถจับต้องได้ และ เป็นความภาคภูมิใจของ สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย อย่างมาก
ส่วนในปี พ.ศ. 2563 สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ได้วางแผนงานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มจากการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์ประเทศไทย 7 สนามยังคงเหมือนเดิม โดยรอบคัดเลือกแข่งขันกันที่ ทีบีซี.สนุกเกอร์ ซอยรามคำแหง 89/1 ส่วนรอบสุดท้ายแข่งตามจังหวัดที่เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพ ต่อด้วยการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์ประเทศไทย , สนุกเกอร์ 6 แดงหญิง ชิงแชมป์ประเทศไทย, พูลชิงแชมป์ประเทศไทย, บิลเลียดชิงแชมป์ประเทศไทย รวมถึงปีนี้ทางสมาคมได้เพิ่มการแข่งขันสนุกเกอร์เยาวชน รุ่นอายุ 15-16 ปีแบบโอเพ่นเป็นครั้งแรกอีกด้วย และสุดท้ายคือ การแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่สุด มีนักสนุกเกอร์มืออาชีพของโลกเดินทางมาทำการแข่งขันที่เมืองไทยกันเป็นจำนวนมาก ทางสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าจัดอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการแข่งขันทุกรายการในทุก ๆ ปี สมาคมฯได้รับงบประมาณจาก การกีฬาแห่งประเทศไทยแค่จำนวนไม่มาก ที่เหลือต้องหาเข้ามาเอง ยอมรับว่าแต่ละปีใช้ทุนส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่ในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในบางส่วน ถึงแม้จะเข้าเนื้อก็ยังต้องจัดเพื่อคงความยิ่งใหญ่ในกีฬาสนุกเกอร์ของเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยหวังว่า ทุกรายการที่สมาคมฯจัดการแข่งขันต้องมีดาวรุ่งฝีมือดีเข้าสู่โครงการทีมชาติไทยจำนวนหลายคน หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ เชื่อมั่นว่าไม่เกิน 4 ปี จะต้องมี “ต๋อง 2 หรือ ต๋อง 3” เกิดขึ้น เพื่อมุ่งหน้าเดินเส้นทางเดียวกับ เทพไชยา อุ่นหนู หรือ เอฟ นครนายก และ นพพล แสงคำ หรือ หมู ปากน้ำ อย่างแน่นอน.