โจโจ้
สุดสัปดาห์นี้ การแข่งขันโมโต จีพี ชิงแชมป์โลก 2019 สนาม 15 รายการ “โมโตจีพี พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” จะเปิดฉากชิงเจ้าความเร็ว ระหว่างวันที่ 4-6 ต.ค.ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
เห็นความคึกคักของกองเชียร์แต่ละคนที่มารอต้อนรับและให้กำลังใจนักแข่งในดวงใจแล้ว
เชื่อว่าปีนี้เกมการแข่งขันจะเข้มข้นและสุดมันอย่างแน่นอน
ทั้งแฟนพันธุ์แท้ของ “เจ้าหนูมหัศจรรย์” “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลก 5 สมัยของเรปโซล ฮอนด้า รวมถึง “วาเลนติโน รอสซี” ทีมโมวิสตา ยามาฮ่า ที่ดูจะเป็นนักแข่งแม่เหล็กที่มีแฟนคลับหนาแน่น ส่วนหนึ่งเพราะผลงานที่โดดเด่นในช่วง หลายปีที่ผ่านมา
อีกคนที่ถือว่ามาแรงและเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ลุ้นโพเดียมแชมป์ในระยะหลังอยู่ตลอด “อันเดรีย โดวิซิโอโซ” ทีมดูคาติ ที่ถือว่าประมาทไม่ได้
เรียกว่าหายใจรดต้นคอมาตลอด หากผู้นำพลาดก็พร้อมที่จะบิดแซงทุกเมื่อ
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา สนามช้างแห่งนี้ก็สร้างประวัติศาสตร์และตำนานมาแล้ว หลังจากที่ “เจ้าหนูมหัศจรรย์” “มาร์ค มาร์เกซ” ประกาศศักดาแชมป์สมัยที่ 5 ที่แดนสยาม ทั้งที่ยัง เหลือสนามแข่งขันอีก 4 สนาม
มาถึงปีนี้จากสถิติ “เจ้าหนูมหัศจรรย์” มาร์ค มาร์เกซ ก็ยังทำผลงานได้อย่างสุดเน้ียบเหมือนเดิม
และว่ากันว่า สนามที่ 15 คราวนี้จะเป็นอีกครั้งที่ “มาร์เกซ” จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะดูจากคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งแบบสุดกู่
สมมติว่า ถ้า “มาร์เกซ” เกิดแอ็กซิเดนต์พลาดท่าในสนามนี้ สังเวียนที่เหลืออีก 4 สนามขอเพียงได้แชมป์สนามใดก็ตาม ก็จะกลายเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 6 ทันที
ดูแล้วฟันธงแบบไม่มีราคาได้เลยว่า อย่างไรซะตำแหน่งแชมป์โลกไม่มีเปลี่ยนมือแน่นอน ยังคงเป็น “เจ้าหนูมหัศจรรย์” มาร์ค มาร์เกซ ที่จะแบเบอร์ อย่างไม่ต้องสงสัย
จากตารางคะแนนของปีนี้ผ่านไปแล้ว 14 สนาม ปรากฏว่า อันดับ 1 มาร์ค มาร์เกซ ทีมเรปโซล ฮอนด้า 300 คะแนน ตามมาด้วยอันดับ 2 อันเดรีย โดวิซิโอโซ ทีมดูคาติ 202 คะแนน และอันดับ 3 อเล็กซ์ รินส์ ทีมซูซูกิ เอคสตาร์ 156 คะแนน ดูแล้ว ไม่แตกต่างจากฤดูกาลที่ผ่านมา ที่เมื่อจบการแข่งขัน ทั้ง 19 สนามอันดับ1 มาร์ค มาร์เกซ ทีมเรปโซล ฮอนด้า 321 คะแนนอันดับ2 อันเดรีย โดวิซิโอโซ ทีมดูคาติ 245 คะแนน อันดับ3 วาเลนติโน รอสซี ทีมโมวิสตา ยามาฮ่า 198 คะแนน
หันมาดูนักแข่งไทย “เจ้าก้อง” สมเกียรติ จันทรา ที่กำลังต่อสู้ในรุ่น “โมโตทู” เป็นครั้งแรก
ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ ล่าสุดอยู่ที่ 21 หากอีก 4 สนามที่เหลือ ขอเพียงมีแต้มทุกครั้ง อันดับก็จะขยับดีกว่านี้แน่นอน
สิ่งหนึ่งต้องชมคือหัวใจที่กล้าแกร่ง ขนาดลงแข่งในรุ่นโมโตทูครั้งแรก แต่ยังทำผลงานได้ดีแถมก่อนหน้านี้เจออุปสรรคมากมายจากอุบัติเหตุไม่ว่า “แขนซ้ายหัก กระดูกนิ้วเท้าแตก รวมถึงอาการเจ็บ อาร์มปั้ม” ที่ดูจะเป็นอุปสรรคที่สำคัญ มาบั่นทอนแต้มก็ตาม
แต่สุดท้าย “เจ้าก้อง” ก็แสดงให้ทุกคนเห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงและสัญชาตญาณของนักแข่งว่ามีมากเพียงใด
เชื่อว่าจากประสบการณ์ครั้งนี้ จะทำให้ “เจ้าก้อง” มีโอกาสก้าวเป็นยอดนักแข่งในอนาคตแน่นอน เผลอๆอาจเป็นนักแข่งไทยคนแรกที่ได้บิดในโมโตจีพี.
โจโจ้