เมื่อความ "สำเร็จ" มาพร้อม "ความกดดัน"

ไม่รู้ว่าต้องปรบมือกี่ร้อยกี่พันครั้ง ถึงจะเพียงพอสำหรับการสรรเสริญให้กับทีมนักตบลูกขนไก่ไทย ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2019 ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผลงาน 1 เหรียญเงิน กับอีก 2 เหรียญทองแดง น่าจะกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า นี่คือผลงานที่สุดยอดที่สุดแล้ว นับตั้งแต่นักแบดมินตันไทยเข้าร่วมการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้

แน่นอนว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้น ต้องชื่นชมความร่วมมือของทุกฝ่าย ซึ่งอยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของทีมงานทั้งหมด เพราะหากไม่มีบรรดาผู้ปิดทองหลังพระคอยสนับสนุน ก็ไม่รู้ว่าความสำเร็จแบบนี้จะเกิดขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้หรือเปล่า

การขึ้นยืนบนแป้นรับเหรียญของ "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ ไม่ใช่ครั้งแรกในศึกชิงแชมป์โลก เพราะเธอเคยไปไกลสุดถึงการเป็นแชมป์เมื่อปี 2013 แต่ถึงยังไงในฐานะกองเชียร์ชาวไทย เราเองก็อยากเห็น "น้องเมย์" ยืนบนแป้นบ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในการแข่งขันระดับนานาชาติ

ขณะที่ "กัน" กันตภณ หวังเจริญ ก็ทำผลงานได้อย่างเฉียบขาดตลอดทั้งปี 2019 พอมาถึงเดือนสิงหาคม ที่การแข่งขันชิงแชมป์โลกเวียนมาบรรจบ ปรากฏว่าเจ้าตัวยังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงต่อเนื่อง

การปราบทั้ง เค. ศรีคานธ์ มือ 7 จากอินเดีย รวมถึงเขี่ย โจว เทียน เฉิน เต็งสองของรายการ ร่วงตกรอบ 8 คนสุดท้ายอย่างมีสไตล์ คงทำให้เด็กหนุ่มวัย 20 ปีรายนี้จะไม่ถูกมองข้ามในทัวร์นาเมนต์ต่อๆ ไปอย่างแน่นอน

ด้าน "บาส-ปอป้อ" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่ขึ้นมายืนในท็อป 10 ของโลกตั้งนาน แต่กลับยังไม่ค่อยได้สัมผัสความสำเร็จในรายการระดับเมเจอร์มากนัก

แต่มาครั้งนี้ยอมรับ และซูฮกให้ในความแข็งแกร่งโดยแท้ โดยเฉพาะการปราบเต็งสองจากจีนในรอบตัดเชือก น่าจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับทั้งคู่ไม่น้อย ในทัวร์นาเมนต์ที่เหลือของปีนี้

และแน่นอนว่าจากความสำเร็จที่เกิดขึ้น คงหนีไม่พ้นการคาดหวังของแฟนกีฬาไทย ที่อยากให้ทั้ง 4 คน รักษาเนื้อรักษาตัวและฟอร์มการเล่นให้ต่อเนื่องยาวนานไปถึงโอลิมปิก 2020 ในช่วงกลางปีหน้าที่ญี่ปุ่น

แต่ทุกคนก็ต้องอย่าลืมว่าความสำเร็จขนาดนี้ย่อมมาพร้อมความกดดันก้อนโตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครหลายคนอาจจะวาดฝันถึงภาพของนักแบดไทยได้ยืนแป้นขึ้นรับเหรียญโอลิมปิกซะที

แต่ก็อย่างที่บอกไปว่า การจะเดินไปถึงความสำเร็จในวันนั้นที่เราฝันเอาไว้ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดแน่

เพราะคู่แข่งในโอลิมปิกย่อมเตรียมตัวมาดีเช่นกัน ยิ่งได้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองในศึกชิงแชมป์โลก ก็ต้องพยายามลบจุดอ่อนของตัวเองให้ได้ เพื่อเป้าหมายที่วางเอาไว้

จากวันนี้จะเป็นยังไงไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือขอเป็นกำลังใจ และอยู่เคียงข้างนักแบดมินตันไทย ในการไล่ล่าความสำเร็จทุกๆ ทัวร์นาเมนต์.