ไทยรัฐออนไลน์
สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สังเวียนมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกของไทย เปิดแทร็กเป็นเจ้าภาพศึกรถยนต์ทางเรียบระดับโลกของญี่ปุ่น รายการ “ช้าง ซูเปอร์จีที เรซ 2019” อย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอย แฟนมอเตอร์สปอร์ต “ไทย-ญี่ปุ่น” หลายหมื่นแน่นขนัด แชมป์รุ่นใหญ่จีที 500 ตกเป็นของ เลกซัส ทีมเลอมองส์ วาโกะส์ ที่ขับโดย คาซูยะ โอชิมะ และ เคนตะ ยามาชิตะ 2 นักขับญี่ปุ่น ด้านทีมแข่งไทย "แพนเธอร์ อาร์โต้ ทีม ไทยแลนด์" แซง 5 คัน คว้าอันดับ 17 ในโฮมเรซ
วันที่ 30 มิ.ย. 62 ศึกรถยนต์ทางเรียบระดับตำนานจากประเทศญี่ปุ่น ซูเปอร์จีที 2019 สนาม 4 รายการ “ช้าง ซูเปอร์จีที เรซ 2019” ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นับเป็นสนามเดียวที่แข่งนอกประเทศญี่ปุ่น และเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ที่ดวลความมันในประเทศไทย
สำหรับไฮไลต์ของสุดสัปดาห์นี้ อยู่ที่การแข่งขันเรซสุดมันของซูเปอร์จีที ทั้งรุ่นจีที500 และ จีที300 ซึ่งมีสุดยอดรถแข่งระดับโลกรวม 39 คัน ขณะที่แฟนความเร็วหลายหมื่นคน เดินทางเข้าร่วมชมการแข่งขันอย่างคึกคัก ซึ่งนอกจากการแข่งขันแล้วยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่เรียกความสนใจแฟนๆ ความเร็วได้อย่างมาก อาทิ พิตวอล์ค, กริดวอล์ค และ เซอร์กิต ซาฟารี
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ “ช้าง ซูเปอร์จีทีเรซ 2019” ออกสตาร์ตกันในเวลา 15.00 น. โดยตำแหน่งโพลโพซิชั่นรุ่นจีที500 เป็นของรถแข่ง เลกซัส แอลซี500 หมายเลข 6 จากเลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ ที่ขับโดย คาซูยะ โอชิมะ และ เคนตะ ยามาชิตะ 2 นักขับญี่ปุ่น ขนาบข้างด้วยอันดับ 2 เลกซัส ทีม เว็ดสปอร์ต บันโดะห์ ที่ขับโดย ยูจิ คูนิโมโตะ และ โชซึโบอิ
เกมออกสตาร์ทเรซด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็วของคาซูยะ โอชิมะ นักขับมือแรกของเลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ ที่ออกตัวจากโพลและรักษาตำแหน่งหัวแถวได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนนำรถเข้าพิตเพื่อเติมน้ำมัน เปลี่ยนยาง และเปลี่ยนตัวนักขับ หลังผ่านไปครึ่งทางของเรซ จากนั้นเป็น เคนตะ ยามาชิตะ รับไม้ต่อเป็นนักขับคนที่ 2 ของเลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ โดยออกจากพิตมาด้วยการเป็นผู้นำได้อีกครั้ง มี นิค คาสซิดี้ นักขับชาวนิวซีแลนด์ จากเลกซัส ทีม คีเปอร์ ทอมส์ หมายเลข 37 ไล่บี้อย่างหนัก โดยแชมป์ของคลาสจีที 500 ในเรซนี้ตกเป็นของรถแข่งเลกซัส แอลซี500 หมายเลข 6 จากเลกซัส ทีม เลอมองส์ วาโกะส์ ที่ขับโดย คาซูยะ โอชิมะ และ เคนตะ ยามาชิตะ 2 นักขับญี่ปุ่น หลังครบ 66 รอบสนาม ในเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม เฉือนอันดับ 2 เลกซัส ทีม คีเปอร์ ทอมส์ หมายเลข 37 ที่ขับโดย นิค คาสซิดี้ และ เรียว ฮิราคาวะ เพียง 1.236 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นรถแข่งหมายเลข 19 จากเลกซัส ทีม เว็ดสปอร์ต บันโดะห์ ที่ขับโดย ยูจิ คูนิโมโตะ และ โช ซึโบอิ ตามหลังแชมป์ 10.249 วินาที
ด้านการแข่งขันในคลาสจีที300 ตำแหน่งโพลเป็นของรถแข่ง โตโยต้า 86 เอ็มซี หมายเลข 25 จากทีมซึชิยะ เอ็นจิเนียริ่ง ที่ขับโดย 2 นักขับญี่ปุ่น ทาคามิตสึ มัตซูอิ และ คามิยะ ซาโตะ แต่เจ้าของโพลกลับมาพลาดในช่วงแรกของการแข่งขัน
ส่งผลให้ในช่วงครึ่งหลังของเรซ การชิงตำแหน่งหัวแถวเป็นของรถแข่งนิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 56 จาก คอนโด เรซซิ่ง ที่ขับโดย คาซูกิ ฮิรามิเนะ นักขับญี่ปุ่น และ ซาชา เฟเนสตราซ์ ทีมเมทชาวฝรั่งเศส ที่โดนไล่บี้อย่างหนักจากรถแข่งนิสสัน จีที-อาร์หมายเลข 10 จากทีมเกนเนอร์ โดย 2 นักขับญี่ปุ่น คาซูกิ โฮชิโนะ และ เคอิชิ อิชิกาวะ
สำหรับเกมในเรซนี้ของคลาสจีที300 มีพลิกผันในรอบสุดท้าย เมื่อผู้นำในคลาสจีที500 มาจ่อท้ายรถแข่งนิสสันจีที-อาร์ หมายเลข 56 จากคอนโด เรซซิ่ง ที่ขับโดย คาซูกิ ฮิรามิเน จึงต้องเปิดทางให้ แต่กลับกลายเป็นเปิดช่องให้ เคอิชิ อิชิกาวะ ชิงจังหวะพารถแข่งนิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 10 เสียบแซงผ่านขึ้นไปด้วย ก่อนเข้าป้ายเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์ในเรซนี้ไปครอง โดยเฉือนนิสสัน จีที-อาร์ หมายเลข 56 จาก คอนโด เรซซิ่ง ที่เข้าอันดับ 2 เพียง 0.792 วินาที เท่านั้น
ด้านทีมแข่งไทย แพนเธอร์ อาร์โต้ ทีมไทยแลนด์ ที่ออกตัวจากกริดสตาร์ต 22 เริ่มเกมโดย ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ นักขับไทย พร้อมขยับขึ้นมาได้ 2 อันดับ ก่อนส่งต่อให้ทีมเมท ฌอน วัลกินชอว์ นักขับลูกครึ่งสก็อตติช-เบลเจียน ออกมาขับในช่วงที่ 2 และพาทีมขยับขึ้นมาจบในอันดับ 17
สำหรับการแข่งขันสนามถัดไปของซูเปอร์จีที 2019 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 สิงหาคม ที่สนามฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น.
ชมคลิป