ไทยรัฐออนไลน์
“เจ็ตสกี โปร ทัวร์ 2019” ตัดสินแชมป์ประเทศไทย ใส่กันไฟแลบ นันทวัฒน์ สิงห์อุไร ดวล ทัศพงศ์ แสงอุทัย ชิงแชมป์โปรเจ็ตสกียืนสุดสูสี จบวันแรกแต้มเท่ากัน ขณะที่รุ่นใหญ่เจ็ตสกีนั่ง ศุภลักษณ์ นิลนพรัตน์ กลับมาชิงความได้เปรียบเหนือ อรพรรณ ธีรพัฒน์พานิชย์ ในการแข่งขันที่อ่างเก็บน้ำห้วยซับประดู่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.
ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย “เจ็ตสกี โปร ทัวร์ 2019” สนามสุดท้ายตัดสินแชมป์ประเทศไทย จะมีขึ้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยซับประดู่ จังหวัดนครราชสีมา วันแรกเมื่อ 29 มิ.ย. โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในพิธีเปิด
เกมชิงดำแชมป์ประเทศไทยในรุ่นระดับอาชีพเจ็ตสกียืนที่แรงที่สุด โปรเจ็ตสกียืน (PRO-AM SKI MODIFIED) เป็นการชิงแชมป์กันของ 2 ดาวรุ่งที่มีคะแนนนำนักแข่งรุ่นเก๋าคนอื่นๆมี นันทวัฒน์ สิงห์อุไร มีคะแนนนำฤดูกาลที่ 161 คะแนน และ ทัศพงศ์ แสงอุทัย ์ แชมป์สนาม 1 และ 3 ตามหลังอยู่ 2 คะแนน จึงยังต้องลุ้นกันหนักทั้ง 4 โมโตของสนามนี้
ในโมโตแรก นันทวัฒน์ ใช้การเข้าทุ่นที่ทำได้ดีอย่างสม่ำเสมอเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ได้ก่อน ทัศพงศ์ ตามมาเป็นอันดับ 2 และ ชัชนันท์ สิริวัฒนากูล เข้ามาเป็นที่ 3
โมโต 2 ทัศพงศ์ ออกตัวดีกว่าขึ้นนำได้ตั้งแต่รอบแรกโดยที่ นันทวัฒน์ หลุดไปเป็นที่ 5 ก่อนไล่แซงคู่แข่งได้ 3 ลำ จนมาเบียดกับ ทัศพงศ์ ช่วง 2 รอบสุดท้าย แต่ไล่ไม่ทัน โมโตนี้ ทัศพงศ์ ได้ที่ 1 บ้าง ทำให้ 2 โมโตแรก ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากันที่ 113 คะแนน ตามด้วย ชัชนันท์ และ มุสตาน มิน 91 คะแนนเท่ากัน
ขณะที่รุ่นเจ็ตสกีที่แรงเร็วที่สุดในโลกอย่างรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง จีพี (PRO-AM RUNABOUT GP) ที่ฤดูกาลนี้ 2 นักแข่งหญิงผลงานดีกว่านักแข่งชายมือดีหลายๆคน ศุภลักษณ์ นิลนพรัตน์ ผู้นำมี 156 คะแนน ลุ้นแชมป์กับ อรพรรณ ธีรพัฒน์พานิชย์ แชมป์ประเทศไทยเมื่อปี 2017
โมโตแรกการลุ้นแชมป์ประเทศไทยทำท่าเข้มข้นมากขึ้น อรพรรณ ได้ที่ 1 ขณะที่ ศุภลักษณ์ พลิกล็อกตกไปถึงที่ 5 อันดับ 2 เป็น เพิ่มพล ธีรพัฒน์พานิชย์ และ จุน อิโคม่า แชมป์เก่าชาวญี่ปุ่นเป็นที่ 3
ขณะที่โมโต 2 ยิ่งพลิกล็อกกว่าเดิม เพิ่มพล ออกนำโด่งตั้งแต่ต้น แต่เกิดเรือเสียเช่นเดียวกับ จุน อิโคม่า และ อรพรรณ ทำให้ ศุภลักษณ์ ที่สตาร์ตไม่ดี ตามแซงคู่แข่งเข้าเป็นที่ 1 ตามด้วย อรรถพล คุณสา และ ทวีผล สุขเกษม
รวมคะแนน 2 โมโตแรกสุดสูสี ศุภลักษณ์ แซงนำที่ 99 คะแนน อรรถพล ขึ้นมาลุ้นแชมป์ที่ 96 คะแนน และ อรพรรณ อยู่ที่ 3 ได้ 93 คะแนน เกมจึงยังต้องลุ้นกันเหนื่อยในอีก 2 โมโตที่เหลือ
รุ่นสปอร์ต จีพี (SPORT GP) ก็ลุ้นกันสนุกเช่นกัน แม้ว่า สุภัค เสร็จธุระ แชมป์ประเทศไทย 8 สมัยซ้อนยังต้องการแชมป์สนามนี้เพื่อประกันการเป็นแชมป์ประเทศไทยรุ่นนี้เป็นสมัยที่ 9 ขณะที่ ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ ดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่ตามหลังอยู่ 7 คะแนน มีโอกาสแซงคว้าแชมป์สมัยแรกหากได้แชมป์ในสนามนี้
จากการที่สนามนี้มีลมแรงทำให้มีคลื่นลมยิ่งส่งผลให้ สุภัค ที่ประสบการณ์รุ่นนี้เหนือกว่าคนอื่นๆยิ่งได้เปรียบ เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ได้ทั้ง 2 โมโตแรก ขณะที่ ธภัทรวัฒน์ ยังไม่ทิ้งโอกาสตัวเอง เป็นที่ 2 ได้ทั้ง 2 โมโตเช่นกัน สุภัค มีคะแนนนำที่ 120 คะแนนเต็ม ตามด้วย ธภัทร์วัฒน์ 106 คะแนน และ ทศวนนท์ เผือกผ่อง 87 คะแนน
ส่วนรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี (PRO-AM RUNABOUT 1100 OPEN) ยังไม่มีใครหยุด เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ แชมป์เก่า 4 สมัยซ้อน เต็งแชมป์สมัยที่ 5 จากการมีคะแนนสะสม 180 คะแนนเต็มได้ เข้าที่ 1 สบายๆใน 2 โมโตแรก เก็บคะแนนสนามนี้ 120 คะแนนเต็ม ตามด้วย ธภัทรวัฒน์ 106 คะแนน และ เชาวลิต เกื้อจรูญ 91 คะแนน
สำหรับการแข่งขัน 2 โมโตสุดท้ายเพื่อตัดสินแชมป์ประเทศไทยในสุดยอดรุ่นอาชีพ จะทำการแข่งขันกันต่อในวันที่ 30 มิ.ย. แฟนเจ็ตสกีได้ชมฟรีตั้งแต่เวลา 8.00 น. เป็นต้นไป และถ่ายทอดสดทาง True Sport 5 เวลา 14.30 - 17.00 น.