ไทยรัฐฉบับพิมพ์
สหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ไอทีทีเอฟ) เชิญ 3 ผู้ตัดสินไทย ทำหน้าที่ในมหกรรมกีฬาใหญ่ปีหน้า โดย นิวัฒน์ เสมาเงิน ได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้ช่วยชี้ขาดกีฬาเทเบิลเทนนิสโอลิมปิกเกมส์ 2020 ส่วนไพรัช เรืองวิริยะชัย ได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้ตัดสินในโตเกียวเกมส์ เช่นกัน และชูสกุล วารายานนท์ ได้รับเชิญให้เป็นผู้ตัดสินเทเบิลเทนนิสพาราลิมปิกเกมส์ 2020
สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยได้รับข่าวดี เมื่อสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ไอทีทีเอฟ) ได้เชิญให้ 3 เจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ ประกอบด้วย นายนิวัฒน์ เสมาเงิน, นายไพรัช เรือง-วิริยะชัย และนายชูสกุล วารายานนท์ เดินทางไปรับหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมงานตัดสินการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสใน 2 รายการใหญ่ระดับโลก ได้แก่ โอลิมปิกเกมส์ 2020 และพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยนายนิวัฒน์ได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้ช่วยชี้ขาดในกีฬาเทเบิลเทนนิสของโอลิมปิกเกมส์ 2020 ส่วนนายไพรัชได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้ตัดสินในกีฬาเทเบิลเทนนิสของโอลิมปิกเกมส์ 2020 เช่นกัน และนายชูสกุลได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้ตัดสินในกีฬาเทเบิลเทนนิสคนพิการของมหกรรมพาราลิมปิกเกมส์ 2020
นายสกุล อริยโชติมา รองเลขาธิการสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ (ไอทีทีเอฟ) ได้พยายามมองหาผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยชี้ขาดที่มีฝีมือ มีประสบการณ์จากทั่วทุกมุมโลกให้มาทำหน้าที่ในแมตช์การแข่งขันที่สำคัญใหญ่ๆระดับโลก และไอทีทีเอฟได้เล็งเห็นถึงเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนนี้ของไทยที่มีไลเซนส์การทำงานที่ชัดเจน ประสบการณ์สูงสุดในประเทศ คร่ำหวอดอยู่ในวงการเทเบิลเทนนิสไทยและนานาชาติมามากกว่า 10 ปี โดยทางนายนิวัฒน์ เป็น Deputy Referee หรือผู้ช่วยชี้ขาดอันดับ 1 ของไทยที่ทำหน้าที่ในรายการใหญ่ในประเทศและรายการนานาชาติมากมาย ส่วนนายไพรัชและนายชูสกุลก็เป็น 2 ผู้ตัดสินมือดีที่สุดของประเทศที่เดินทางไปตัดสินมารอบโลกหลายประเทศนับไม่ถ้วน ทั้ง 3 ผ่านการสอบขึ้นมาเป็นผู้ตัดสินในประเทศ ผู้ตัดสินระดับนานาชาติแล้วจนเลื่อนขั้นเป็นระดับ “ไวท์เบลด” ก่อนที่จะมาเป็นระดับสูงสุด “บลูเบลด” ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของสหพันธ์ฯ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ทั้ง 3 ต้องใช้เวลาเป็น 10 ปี
“ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย สำหรับวงการเทเบิลเทนนิสไทย และสำหรับคนไทยที่ได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากสหพันธ์กีฬาระดับโลก นี่ถือเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ผู้ตัดสินของเทเบิลเทนนิสไทยได้รับเชิญให้ไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่ในรายการใหญ่ระดับนี้ และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สำหรับตำแหน่งผู้ช่วยชี้ขาดด้วย” นายสกุลกล่าวในตอนท้าย