หน้าแรกแกลเลอรี่

2 แชมป์เทควันโดโลก เปิดทางทองโอลิมปิก 2020

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

26 พ.ค. 2562 05:01 น.

เป็นอีกครั้งในรอบ 8 ปี ที่จอมเตะทีมชาติไทย ทำผลงาน ได้อย่างยอดเยี่ยม ในศึกเทควันโดชิงแชมป์โลก 2019 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งจบลงไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

เมื่อคว้ามาได้ถึง 2 เหรียญทอง จาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หมายเลข 1 ของโลก รุ่น 49 กก.หญิง และ “นก” พรรณนภา หาญสุจินต์ รุ่น 53 กก.หญิง

พ่วงด้วยอีก 1 เหรียญทองแดง จาก “เหมี่ยว” จุฬานันท์ ขันติกุลานนท์ รุ่น 46 กก.หญิง

ส่งให้ทีมจอมเตะสาวของไทย คะแนนรวมรั้งอันดับ 4 ในรายการนี้ เป็นรองเพียงเกาหลีใต้ อังกฤษและจีน ที่ได้อันดับ 1-3 ไปครองตามลำดับ

หลังจากก่อนหน้านี้ เคยทำได้มาแล้ว เมื่อปี 2011 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคว้ามาได้ 2 แชมป์โลกเช่นกัน จาก “แม็ก” ชัชวาล ขาวละออ รุ่น 54 กก. ชาย และ “จูน” รังสิยา นิสัยสม รุ่น 62 กก.หญิง

ขณะที่เมื่อปี 2015 ที่ประเทศรัสเซีย ได้มา 1 เหรียญทอง จากพาณิภัค ทำให้นักเทควันโดหญิงรายนี้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนแรกของไทย ที่เบิ้ลแชมป์เทควันโดโลกได้สำเร็จอีกด้วย

เบ็ดเสร็จแล้วไทยสร้างชื่อในรายการชิงแชมป์โลก ด้วยการทำไปได้ 6 แชมป์โลก จากนักกีฬา 5 คน ร่วมด้วยอีก 6 เหรียญเงิน และ 15 เหรียญทองแดง

ต้องถือว่าไม่ธรรมดาเลย!!!

โดยเฉพาะ ในส่วนของ “เทนนิส” พาณิภัค ที่คว้าแชมป์ครั้งนี้ ยังเก็บเพิ่มได้อีก 120 คะแนน แต้มสะสมไปโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พุ่งหนีอันดับ 2 คิม โซ ฮุย จากเกาหลีใต้ ไปไกล

แทบจะ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ที่หมายเลข 1 ของโลกชาวไทยจะได้ไปโตเกียวเกมส์

ด้วยเพราะสหพันธ์เทควันโดโลก ได้กำหนดหลักเกณฑ์เอาไว้ให้จอมเตะที่มีคะแนน 16 อันดับแรกในแต่ละรุ่น ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ ไปโดยอัตโนมัติ

“ดีใจที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้อีก หลัง จากเมื่อครั้งที่แล้ว ในรอบชิงชนะเลิศ พลาดไป ได้เพียงเหรียญเงิน โดยแชมป์โลกที่ได้มา น่าจะทำ ให้รักษาโควตาไปโอลิมปิก 2020 เอาไว้ได้ เพราะ คะแนนทิ้งอันดับ 2 อยู่ค่อนข้างมาก” พาณิภัคกล่าว

นอกจากนี้ “เทนนิส” ยังระบุด้วยว่า เป้าหมายต่อไป จะพยายามคว้าเหรียญทองในโอลิมปิก เพราะเป็นเหรียญทองเดียวที่ตนเองยังไม่เคยทำได้

ก็ต้องเรียกว่า การได้แชมป์โลกในครั้งนี้ ช่วยเปิดทางให้จอมเตะสาวไทย วัย 22 ปี ได้ เข้าใกล้เหรียญทอง โตเกียว 2020 มากกว่าเดิม

จากที่โอลิมปิกครั้งก่อน ริโอเกมส์ 2016 ทำได้เพียงเหรียญทองแดง

เพราะได้พิสูจน์ความท้าทายหนึ่งไปแล้ว ด้วยการเอาชนะ หวู จิง หยู คู่ปรับคนสำคัญ เจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกจากจีนในรอบชิงฯชนิดขาดลอย

แถมเจ้าตัวยังมีอาการป่วยก่อนวันชิงฯ อีกด้วย เกือบจะไม่ได้แชมป์ แต่สุดท้ายก็ฮึดสู้จนทำสำเร็จ

ช่วงเวลาจากนี้ก็เหลือแต่รอพิสูจน์บทเรียนใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นกลางปีหน้าว่า จะสร้างความ ท้าทายใหม่ และกระตุ้นตนเองอย่างไร ไม่ให้ความกระหายในชัยชนะหมดไป

เพราะฝีมือและฝีเท้าของพาณิภัค ไม่เป็นรองใครในโลกนี้

ถ้าทำได้ และไม่กดดันตัวเอง สร้างทัศนคติในทางบวก จิตใจผ่อนคลาย ก็มีโอกาสมากทีเดียว ที่เธอจะก้าวไปสู่ความฝันอันสูงสุดกับการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกครั้งแรก

และยังจะเป็นเหรียญทองแรกในโอลิมปิก ของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยอีกด้วย

ถือว่าทางเปิดแล้ว! เหลือแค่หยิบมาให้ได้เท่านั้น...

กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง