Lemon Juice
ขออนุญาตปรบมือชื่นชมกันแบบดัง ๆ สำหรับความสำเร็จของทัพจอมเตะไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์กวาดแชมป์มาได้ถึง 2 รุ่น ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2019 บนแผ่นดินอังกฤษ
จากตอนแรกที่ “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ตั้งเป้าเอาไว้แบบชิลๆ ว่า 1 เหรียญทองในรายการนี้ น่าจะเพียงพอแล้ว
เนื่องจากการแข่งขันชิงแชมป์โลก ทุกคนก็น่าจะทราบดีว่าบรรดานักกีฬาตัวท็อป และชาติชั้นนำของเทควันโดต่างจัดหนักจัดเต็มกันอย่างแน่นอน
แต่ในการชิงแชมป์โลกในเวอร์ชันล่าสุด แม้จะมีอุปสรรคที่มากมายพร้อมใจเดินถาโถมเข้ามา แต่นักกีฬาของไทย ซึ่งผ่านการเคี่ยวกรำอย่างหนักจาก “โค้ชเช” มาแล้ว ทำให้ปัญหาหลายอย่างกลายเป็นเรื่องสิวๆ ไปเลย
สำหรับ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนากิจ แม้จะเคยซิวแชมป์โลกมาแล้วก่อนหน้านี้ แถมเมื่อสองปีที่แล้วก็ได้รองแชมป์มาหมาด ๆ ดังนั้นจึงถูกยกเป็นตัวความหวังอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ใครจะรู้บ้างว่า ภายใต้รอยยิ้มบนโพเดียมรับเหรียญหลังจบการแข่งขัน “น้องเทนนิส” ผ่านอะไรมาบ้าง
หลังจบการแข่งขัน สาวน้อยจากสุราษฎร์ฯ รายนี้ออกมาเผยแบบหมดเปลือกทันทีว่า เธอเจอกับความกดดันและอุปสรรคมากขนาดไหน
เริ่มจากแพ้อาหาร ตาบวม หายใจไม่ออก นอนไม่หลับเพราะเครียด ยังไม่นับอาการช้ำตามร่างกาย หลังโดนคู่แข่งเตะมาในรอบก่อนหน้านี้ด้วย
ที่สำคัญการเจอกับอดีตแชมป์โอลิมปิกชาวจีน ซึ่งเคยแพ้มาก่อนหน้านี้ พูดกันแบบจริง ๆ จัง ๆ ถ้าใจไม่แข็งจริง อาจโดนอาการหลอนเล่นงานเอาง่าย ๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องชื่นชมการจัดการของสมาคมเทควันโดด้วย ที่จัดนักจิตวิทยาเข้ามาช่วยเสริม ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าความสำคัญด้านนี้ ช่วยส่งเสริมความสำเร็จให้นักกีฬามานักต่อนักแล้ว
ซึ่งจากผลงานบนสังเวียนในรอบชิงฯ คงเป็นคำตอบได้อย่างดีว่า “น้องเทนนิส” เธอแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจมากแค่ไหน
ส่วนอีกหนึ่งแชมป์คือ “น้องนก” พรรณนภา หาญสุจินต์ ในรุ่น 53 กิโลกรัมหญิง ก็ฝ่าฟันอุปสรรคด้านสภาพจิตใจ จนคว้าแชมป์ระดับนานาชาติรายการใหญ่ได้เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน หลังติดทีมชาติมานานถึง 6 ปี
ขณะที่อีกหนึ่งคน “เหมี่ยว” จุฬานันท์ ขันติกุลานนท์ ในรุ่น 58 กิโลกรัมหญิงก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน หลังซิวเหรียญทองแดงมาคล้องคอได้ในทัวร์นาเมนต์เดียวกัน
แม้ความสำเร็จในวันนี้ จะช่วยสร้างกำลังใจและแรงกระตุ้นให้กับจอมเตะสัญชาติไทย ในการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง
แต่อย่าลืมว่าเป้าหมายใหญ่ที่หลายคนจับตามอง ก็คือการคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ในโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นมาครองได้ ซึ่งทั้งคนไทยและ “โค้ชเช” ต่างรอคอยมานานแสนนาน
ดังนั้นความสำเร็จที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ความหอมหวานที่ตามมาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความกดดันที่รออยู่ข้างหน้าด้วย.
-LEMON JUICE-