ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ทัพนักกีฬาปัญญาชนไทยยังไม่มีเหรียญทองติดมือ เมื่อทำเพิ่มได้เพียงแค่ 2 เหรียญทองแดง ในกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา โดยได้จากชินลง อีเวนต์ 2 และ พิทยา หยางรุ่งรวิน วูซูยุทธลีลา หนานฉวน
การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา หลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าภาพจัดชิงชัยเหรียญทองทั้งชินลงและวูซู ก่อนพิธีเปิดวันที่ 10 ธ.ค. โดยที่ทัพนักกีฬาปัญญาชนไทย ได้มา 1 เหรียญทองแดง จากชินลง อีเวนต์ 3 ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. มีชิง 3 เหรียญทอง ชินลง อีเวนต์ 2 ไทยลงแข่งรอบรองชนะเลิศ แพ้ลาว 99-170 คะแนน ทำให้ไปชิงเหรียญทองแดง และชนะมาเลเซีย 151-128 คะแนน ได้เหรียญทองแดงที่ 2
ผศ.ดร.ศักยภาพ บุญบาล ผู้ฝึกสอนชินลงไทย กล่าวว่า รายการนี้ยังไม่ใช่อีเวนต์ที่คาดหวัง แต่ตั้งใจจะเข้าไปลุ้นเหรียญทองในอีเวนต์ 1 ที่จะแข่งขันในวันที่ 10 ธ.ค. ซึ่งไทยเป็นเจ้าของเหรียญทอง 3 สมัยในซีเกมส์ มั่นใจว่าจะชนะลาวในรอบรองชนะเลิศเข้าชิงกับเมียนมาแน่นอน อาจจะเป็นเหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาปัญญาชนไทยก่อนพิธีเปิด
ด้านพิทยา หยางรุ่งรวิน นักวูซูทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 เก็บเหรียญทองแดงเพิ่มให้ทัพปัญญาชนไทยได้จากวูซูยุทธลีลา หนาน- ฉวน โดยหนุ่มไทยทำได้ 9.36 คะแนน เหรียญทองเป็นของแฮร์ริส โฮราติอุส จากอินโดนีเซีย 9.61 คะแนน เหรียญเงิน ชั๊วะ ซางหยาง จากมาเลเซีย 9.59 คะแนน
ส่วนวูซูยุทธลีลา ฉางฉวน บุคคลหญิง อรัชพร สินชัย ทำผลงาน 8.81 คะแนน ได้อันดับ 8 เหรียญทอง ฟุง ฮุยซิน จากสิงคโปร์ 9.56 คะแนน เหรียญเงิน โล๊ะ หยิง ติง จากมาเลเซีย 9.55 คะแนน เหรียญทองแดง ปัง ปุย ยี จากมาเลเซีย 9.53 คะแนน
นายอธิพัฒน์ พวงทอง ผู้ฝึกสอนวูซูไทย กล่าวว่า นักกีฬาชุดนี้มีเวลาเตรียมตัวเพียง 1 เดือน การได้นักกีฬาชุดนี้มาถือว่าดีมากแล้ว เพราะมีเวลาเตรียมน้อย อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็สู้อย่างเต็มที่ หวังว่าจะมีเหรียญรางวัลกลับไปให้มากที่สุด
ด้านแบดมินตัน ทีมตบลูกขนไก่ปัญญาชนไทย ประเดิมคว้าชัยในประเภททีมหญิงและทีมชาย ในรอบแรก ทีมชาย มี 6 ทีม แบ่ง 2 กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ไทยลงเล่นนัดแรกชนะลาว เดี่ยวมือ 1 สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ชนะ เกดติยา แก้วสาย 21-7, 21-13 เดี่ยวมือ 2 อดุลรัชต์ นามกูล ชนะ วันพะสอน สุวันนะเพงสี 21-8, 21-9 เดี่ยวมือ 3 กิตติพงศ์ อิ่มนาค ชนะ นำบุญ หลวงอะหมาด 21-9, 21-14 คู่มือ 1 ภานุ รักมีศรี กับ ตนุภัทร วิริยางกูร ชนะ ไซซะนะ วงเวียนคำ กับ มังกอน สายโกสี 21-9, 21-15 คู่มือ 2 เฉลิมพล เจริญกิจอมร กับ ณัฐดนัย เอื้อกูลวราวัตร ชนะ เกดติยา แก้วสาย กับ นำบุญ หลวงอะหมาด 21-18, 21-12
ทีมหญิง แข่งแบบพบกันหมด มี 5 ทีม นัดแรก ไทย ชนะ สิงคโปร์ 5-0 คู่ เดี่ยวมือ 1 ศุภนิดา เกตุทอง ชนะ ซี เอิ่น ฮันนาห์ เทย์ 21-19, 21-12 เดี่ยวมือ 2 นันทกานต์ เอี่ยมสะอาด ชนะ เกรซ ชั๊วะ ฮุย เจิ้น 14-21, 21-17, 21-17 เดี่ยวมือ 3 มนัสนันท์ เลิศหัตถศิลป์ ชนะ เชอริล หลิม เล่อเหว่ย 21-15, 21-9 คู่มือ 1 นันทกานต์ กับ รวิมน เอี่ยมรัตนเมธีกุล ชนะ บุน เวิ่น หลิม กับ เจีย ลี่ เคลลี่ ตัน 21-13, 21-10 คู่มือ 2 ฤทัยชนก ไล้สวน กับ ศุภมาศ มิ่งเชื้อ ชนะ เชอริล หลิม เล่อเหว่ย กับ นินน่าตัน ไอ่ 21-11, 21-16
เช้าวันเดียวกัน เจ้าภาพจัดพิธีเชิญธงชาติของทั้ง 11 ชาติ ขึ้นสู่ยอดเสา ภายในศูนย์กีฬาวันนา ธีกดิ สำหรับทัพไทยมี รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยนำทีมเข้าร่วมพิธี ศ.ดร.วิชิตก ล่าวว่า สำหร้บการแข่งขันครั้งนี้ ถือว่าเจ้าภาพเตรียมความพร้อมไว้ค่อนข้างดี ทั้งสนามที่แม้ว่าจะผ่านการจัดซีเกมส์มาแล้ว 5 ปี แต่ก็ยังรักษาสภาพสนามที่ได้มาตรฐานไว้ได้ รวมถึงอุปกรณ์การแข่งขันที่เตรียมมาจัดในครั้งนี้ก็นับว่าได้มาตรฐานดีมาก แต่ที่การแข่งขันได้รับความสนใจจากชาวเนปิดอว์น้อย เพราะสนามอยู่ไกล และไม่มีขนส่งสาธารณะผ่านต้องคนที่ตั้งใจมาดูจริงๆ รวมถึงสนามมีความกว้าง จึงทำให้อาจจะดูว่าโหรงเหรงไปพอสมควร
หัวหน้านักกีฬาไทย กล่าวอีกว่า ส่วนเจ้าภาพครั้งต่อไปยังไม่มีประเทศไหนเสนอตัว เพราะต้องยอมรับว่าการเป็นเจ้าภาพนั้นต้องใช้งบประมาณสูง อย่างเมียนมา ใช้งบประมาณ 200-300 ล้านบาท ส่วนประเทศไทยโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าภาพนั้น ต้องมีการกลับไปพูดคุยกัน เพราะการเป็นเจ้าภาพต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อน.