ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือ ฟอนซา เผย ฟอนซาพร้อม ผลักดันผู้บริหารสมาคมกีฬาและผู้ตัดสิน ให้ก้าวไปปฏิบัติหน้าที่ในระดับนานาชาติมากขึ้น หลังจากปัจจุบันพบว่าทั้ง 2 ส่วนนี้ยังมีบุคลากรของไทยในเวทีโลกน้อยอยู่ เพื่อการพัฒนากีฬาไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หรือฟอนซา เปิดเผยว่า สหพันธ์ฯ ได้จัดการประชุมที่ห้องประชุม 211 ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมการ และผู้แทนสมาคมกีฬา ได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ปี ค.ศ. 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และการเตรียมความพร้อมในการคัดเลือกนักกีฬาเพื่อเป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ปี ค.ศ.2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
พล.ต.อินทรัตน์กล่าวต่อว่า โดยตนได้หารือกับสมาชิกของสหพันธ์ฯ เกี่ยวกับประเด็นการพัฒนากีฬาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า อีกทั้งกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่เริ่มมีการคัดเลือกนักกีฬา (Qualification) แล้วในหลาย ๆ สมาคมกีฬาฯ โดยที่ประชุมได้หารือเรื่องปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการต่างๆ หลายประเด็น แต่ประเด็นสำคัญที่พบคือ ยังมีผู้บริหารของสมาคมกีฬายังไปปฏิบัติหน้าที่ในระดับนานาชาติไม่มากนัก อีกทั้งผู้ตัดสินที่ไปร่วมปฏิบัติหน้าที่ในมหกรรมกีฬาต่างๆ ก็มีไม่มากเช่นกัน ที่ประชุมจึงมีความเห็นร่วมกันว่า จำเป็นต้องผลักดันให้ผู้บริหารกีฬาและผู้ตัดสินของสมาคมกีฬาต่างๆไปปฏิบัติหน้าที่ในระดับนานาชาติเพิ่มมากขึ้น เพื่อประโยชน์ในการพัฒนากีฬาของไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
ทั้งนี้ ปัจจุบันสมาชิกของสหพันธ์ฯ ได้รับการดูแลจากรัฐบาลและหน่วยงานราชการต่างๆ เป็นอย่างดี ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมการกงสุล เกี่ยวกับการเดินทางไปร่วมแข่งขันยังต่างประเทศและการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติในประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยเหลือดูแลสมาคมกีฬาในทุกๆด้าน รวมทั้งหน่วยงานราชการและเอกชนอีกหลายๆ หน่วยงาน สหพันธ์ฯจึงเห็นว่าหากทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและดูแลสมาคมกีฬาฯเช่นนี้ตลอดไป การพัฒนากีฬาของชาติเพื่อความสุขของคนไทยก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ต่อไป.