ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ครม.เห็นชอบในหลักการ ให้ประเทศไทยแสดงความสนใจที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ปี พ.ศ.2569 (ค.ศ.2026) ส่วนแผนงานและงบประมาณจะมาจากแหล่งใดบ้าง ให้กระทรวงกีฬากลับไปทำรายละเอียดแล้วนำมาเสนออีกครั้ง คาดการณ์สร้างรายได้และเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งจะมีรายได้จากการจับจ่ายของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้แทนองค์กรกีฬาต่างๆจากทั่วโลก 10,000 คน อีกไม่น้อยกว่า 165 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังการประชุม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ และ พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมแถลงผลการประชุม ครม. ซึ่งในส่วนของงานกีฬา ที่ประชุม ครม. ให้ความเห็นชอบเรื่อง การเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 พ.ศ.2569 (ค.ศ. 2026)
โดย ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการให้ประเทศ ไทยแสดงความสนใจที่จะเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 พ.ศ.2569 (ค.ศ.2026) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สำหรับภาระงบประมาณในการจัดการแข่งขันเห็นสมควรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอย่างคุ้มค่าและประหยัด แล้ว เสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ควรกำหนดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการแข่งขันระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และเมืองที่เป็นเจ้าภาพ (ประเทศไทย) ให้ชัดเจน ส่วนค่าใช้จ่ายในส่วนของเมืองเจ้าภาพ จะต้องคำนึงถึงความครอบคลุมของงบประมาณและการนำเงินรายได้จากสิทธิประโยชน์พิจารณาร่วมด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอข้อมูลต่อ ครม. คาดการณ์ว่า หากประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 พ.ศ.2569 (ค.ศ.2026) จะสร้างรายได้และเงินหมุนเวียนในระบบให้กับประเทศกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งจะมีรายได้จากการจับจ่ายของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้แทนองค์กรกีฬาต่างๆจาก 200 ประเทศทั่วโลก 10,000 คน ในช่วงแข่งขัน อีกไม่น้อยกว่า 165 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬาไทยและเยาวชน ที่รักการออกกำลังกาย และแข่งขันกีฬามีความมุ่งมั่นใฝ่ฝันที่จะก้าวมาเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในอนาคต
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ดีใจที่ผู้ใหญ่ให้ความสำคัญและเห็นประโยชน์ที่ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดยูธโอลิมปิกเกมส์ จากนี้ไปคงต้องทำงานกันหนักขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมการด้านความพร้อมต่างๆ เช่น เรื่องสถานที่ การเตรียมนักกีฬา การเตรียมเป็นเจ้าภาพ งบประมาณ และด้านอื่นๆ ดังนั้น การทำงานของเราคงต้องเริ่มกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะในช่วงการแข่งขันยูธโอลิมปิก ครั้งที่ 3 ที่ประเทศอาร์เจนตินา เราคงได้มีโอกาสเจอผู้ใหญ่ในคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ซึ่งไทยเราจะได้นำเสนอความพร้อมต่อไป.