เบี้ยหงาย
(สกล วรรณพงษ์ - พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา)
ใครจะเป็น ผู้ว่าการ กกท.คนใหม่ ที่จะเข้ามาทำงานในวันที่ 1 ก.ค. ต่อจากคนเดิม สกล วรรณพงษ์ ที่จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 มิ.ย. หากกระบวนการทุกอย่างไม่สะดุด และเป็นไปตามกำหนดการเป็นคำถามที่คนในวงการกีฬาอยากจะรู้กัน ซึ่งก็แน่นอน ยังไม่มีใครตอบได้ในเวลานี้ เนื่องจากยังอยู่ในกระบวนการตามขั้นตอน
และตอนนี้เป็นช่วงของการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร 9 ราย ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายราเชลล์ ได้ผลธัญญา รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา, พ.ท.รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์, นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมกีฬาแห่ง จ.ศรีสะเกษ อดีตบอร์ด กกท., ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ลูกชาย ดร.สุวิทย์ ยอดมณี อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายนิวัฒน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา และเลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ, ดร.พิสัณห์ นุ่นเกลี้ยง ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข, น.ส.สุปราณี คุปตาสา คณะกรรมการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และ นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ อดีตนายกสมาคมยิงปืนฯ
โดยการตรวจคุณสมบัตินั้น วางกรอบเวลาไว้ถึง 1 เดือน จัดเป็นช่วงเวลาที่นานที่สุดในกระบวนการสรรหาก็ว่าได้ จากวันที่ปิดรับสมัคร 23 เม.ย. เท่ากับว่าจะตรวจเสร็จและประกาศรายชื่อผู้ที่ได้ไปต่อ ราวๆ
วันที่ 22 พ.ค.ขึ้นไป ซึ่งก็น่าสนใจ จะมีใครไม่ผ่านคุณสมบัติบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของคุณสมบัติเฉพาะที่ระบุไว้ในส่วนของประสบการณ์ในการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งกำหนดไว้ชัดเจนทั้งที่เคยอยู่ในภาครัฐ เอกชน หรือรัฐวิสาหกิจ รวมถึงระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งย้อนหลัง อันนี้เป็นเงื่อนไขอันเป็นรูปธรรม ว่าไปตามกฎระเบียบ
ส่วนการแสดงความสามารถในด้านต่างๆนั้น ก็มีมุมมองของคณะกรรมการเข้ามาเกี่ยวข้องได้
ซึ่งตามกรอบของประธานคณะกรรมการสรรหา พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่วางไว้ หลังผ่านคุณสมบัติ ก็จะสอบภาษาอังกฤษ และเชิญมาแสดงวิสัยทัศน์ ช่วง 4-8 มิ.ย. ก่อนจะสรุปคะแนน เสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด กกท. ในวันที่ 11 มิ.ย. และบอกชัดจะเสนอเพียงชื่อเดียวเท่านั้นให้บอร์ดพิจารณา
จากนี้ไปก็เหลือเวลาอีกไม่นาน ความชัดเจนน่าจะค่อยๆเด่นชัดขึ้นมา และอาจจะเป็นธรรมชาติของการแข่งขัน มักจะมีเรื่องราวอะไรแปลกโผล่ขึ้นมาได้ บ้างก็เป็นคุณบ้างก็เป็นโทษ และมักจะเป็นโทษเสียมากกว่ากับคนที่ได้รับการคาดหวัง
อย่างไรก็ตาม คงพอจะเชื่อมั่นในคณะกรรมการสรรหา และประธานที่ชื่อ พล.อ.วิชญ์! ผู้ว่าการ กกท.ไม่ได้ต้องการคนเลิศเลอ เก่งกล้าสามารถจนหาตัวจับยากหรือเป็นคนกล้าหาญ ดุดัน บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ในความฝัน
ด้วยผู้ว่าการ กกท.นั้น นอกจากพื้นฐานของความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ในวงการกีฬาและ การบริหาร บวกกับความคิดสร้างสรรค์พัฒนา มุ่งมั่นแก้ปัญหา ต้องเข้ามาทำงานร่วมกับคนที่หลากหลาย ก็ต้องมีลูกล่อลูกชน เชื่อมประสานกับหลายส่วน มนุษย์สัมพันธ์และการเข้าถึงเข้าใจจึงมีความสำคัญ!!!
ใครจะเป็นบอสใหญ่ค่ายหัวหมาก ใกล้จะเห็นกันแล้ว...
“เบี้ยหงาย”