หน้าแรกแกลเลอรี่

'ทุ่งสง' พร้อมรับหน้าเสื่อ จัดศึกยกน้ำหนักนานาชาติอีแกท

ไทยรัฐออนไลน์

11 เม.ย. 2561 21:10 น.

"ทุ่งสง" พร้อมระเบิดศึก อีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 ประเภทประชาชน และประเภทยุวชน ระหว่างวันที่ 1-10 พ.ค. ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย เผยใช้เป็นเวทีพิจารณาเฟ้นหาจอมพลังไปลุยเอเชี่ยนเกมส์ และยูธโอลิมปิกเกมส์ ขณะที่ "เจ้าภาพ" การันตีพร้อมทุกด้าน ปรับโฉมโรงยิมส์ติดแอร์เป็นครั้งแรก ส่วนทีมชนะเลิศคะแนนรวมรับชุดเหล็กเป็นรางวัล ด้าน "กฟผ." มอบเงินหนุนยกเหล็กไทย ประจำปี 2561 จำนวน 20 ล้านบาท...

วันที่ 11 เม.ย. 61 ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นายธาตรี ริ้วเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วย พลอากาศเอก จิรศักดิ์ ภูวนารถนุรักษ์ อุปนายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, นายขจรเกียรติ รักษ์พานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช, นายทรงชัย วงษ์วัชระดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง, พลโทพิบูลย์ วิเชียรวรรณ อุปนายกและประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ และนายสมโภชน์ ยิ้มพลอย ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขัน อีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2561 ประเภทประชาชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 1 และประเภทยุวชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 1-10 พ.ค. ที่โรงยิมเทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

พร้อมกันนี้ นายธาตรี เป็นผู้แทนผู้ว่าการ กฟผ. มอบเงินสนับสนุนสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ประจำปี 2561 ให้กับ พล.อ.อ.จิรศักดิ์ ผู้แทนนายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ จำนวน 20 ล้านบาทด้วย

นายธาตรี กล่าวว่า กฟผ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไทยสู่สากล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลา 15 ปี โดย กฟผ. เชื่อมั่นว่างบประมาณที่ให้การสนับสนุนจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ และสร้างความสำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ. 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป

นายขจรเกียรติ กล่าวว่า ครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงโรงยิมฯ ที่ใช้ในการแข่งขันด้วยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเป็นครั้งแรก รวมทั้งยังได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านไว้หมดแล้ว ทั้งที่พัก, สนามแข่งขัน, ระบบรักษาความปลอดภัย เป็นต้น เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจได้อย่างแน่นอน

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้จะมีพิธีเปิดในวันที่ 6 พ.ค. โดยได้รับเกียรติจาก นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน และพิธีปิดในวันที่ 10 พ.ค. ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ฯพณฯ พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธาน ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทประชาชน อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ชาย 8 รุ่น และหญิง 8 รุ่น มีสโมสรในประเทศไทย 25 สโมสร และต่างประเทศ 12 สโมสร จาก 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, ลาว, ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ร่วมชิงชัย รวมทั้งสิ้น 235 คน ขณะที่ประเภทยุวชน อายุระหว่าง 13-17 ปี ชาย 8 รุ่นและหญิง 8 รุ่น มีสโมสรในประเทศไทย 32 สโมสร และต่างประเทศ 7 สโมสร จาก 3 ประเทศ ร่วมชิงชัย รวมทั้งสิ้น 308 คน โดยสโมสรที่ได้คะแนนรวมทีมชายและหญิงสูงสุด ประเภทประชาชน จะได้รับชุดอุปกรณ์ยกน้ำหนักมูลค่า 180,000 บาท ส่วนสโมสรที่ชนะเลิศคะแนนรวมประเภทยุวชนทีมชายและทีมหญิง จะได้รับชุดอุปกรณ์ยกน้ำหนัก มูลค่า 90,000 บาท

ด้าน “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้จะให้นักกีฬาทีมชาติลงแข่งขันได้ไม่เกินสโมสรละ 4 คน ซึ่งผลงานของประเภทประชาชน จะนำมาประเมินเพื่อคัดเลือกไปร่วมศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือน ส.ค. ขณะที่ประเภทยุวชน จะนำมาพิจารณาเพื่อคัดเลือกไปแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในเดือน ต.ค.ด้วย.