เบี้ยหงาย
เป็นคำกล่าวที่แวดวงคนกีฬามักจะพูดกันมาช้านาน ต่างกรรมต่างวาระในทำนองว่า กีฬานั้นไม่ยุ่งกับการเมือง เป็นคนละส่วนที่ไม่มาปะปนกัน แต่ในข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่บ่อยครั้ง ที่สองเรื่องเกาะเกี่ยวกันทั้งรูปธรรมและนามธรรมจนแยกกันไม่ออก
ไม่ว่าจะเป็นกีฬาระดับนานาชาติ หรือกีฬาภายใน บ้านเรา
ตอนนี้ก็มีเหตุที่หลายฝ่ายจับจ้องกับกรณีที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับการลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียกับลูกสาวด้วยการใช้ยาพิษในประเทศอังกฤษ ทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตของสองชาติเลวร้ายลง และขยายวงไปยังหลายชาติ ทั้งสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรอังกฤษ
มาพาดพิงถึงฟุตบอลโลก ที่รัสเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งก็ยังเป็นรายงานข่าวที่ อังกฤษ และ 6 ชาติที่เข้าแข่งรอบสุดท้ายอย่าง โปแลนด์, ไอซ์แลนด์, เดนมาร์ก, สวีเดน, ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น มีแผนจะบอยคอตไม่ไปแข่งขัน
ย้ำว่ายังเป็นแค่ข่าวจากทางอังกฤษ ยังไม่มีการประกาศจากผู้เกี่ยวข้องโดยตรง
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ในส่วนของไอโอซี หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้เดินทางไปกรุงเปียงยาง จับไม้จับมือกับประธานาธิบดี คิม จอง อึน ซึ่งเป็นการสานต่อจากกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เกาหลีใต้จัด และเกาหลีเหนือเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งการประสานสัมพันธ์ของสองเกาหลีที่รวมทีมเดินพาเหรด และแข่งในกีฬาบางชนิดอย่างฮอกกี้น้ำแข็ง ทำให้ซีนการเมืองเป็นจุดเด่นเหนือกีฬามาแล้ว และอาจจะส่งต่อไปถึงโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงโตเกียวก็เป็นได้
นี่คือความชัดเจนของกีฬาและการเมืองระหว่างประเทศที่ก้าวเดินไปด้วยกัน
และก็ไม่ใช่ครั้งแรกๆ ในอดีตมีกรณีอย่างโอลิมปิก มิวนิก ปี 1972 ที่ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี บุกจับตัวประกันในหมู่บ้านนักกีฬา หรือโอลิมปิกมอสโก ครั้งยังเป็นสหภาพโซเวียต ปี 1980 ก็ถูกสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร จำนวน 63 ประเทศ รวมทั้งไทย บอยคอต
ส่วนบ้านเรา กีฬากับการเมืองก็อีนุงตุงนังไปหมด มีทั้งการเมืองเข้าหาด้วยชอบส่วนตัว หรือทั้งต้องการสร้างกระแสนิยม เป็นภาพลักษณ์ทางสังคมและเป็นผลดีต่อการเมือง
ฝั่งของคนกีฬาเองก็ชอบเชื้อเชิญบิ๊กๆ ทางการเมืองเข้ามา ด้วยหวังใช้อิทธิพลเป็นประโยชน์ทั้งองค์กรกีฬาและอาจรวมถึงส่วนตน กับการแสวงหาตำแหน่งหน้าที่ด้านอื่นๆ ประโยชน์ร่วมกันไป!
ช่วงกลางเดือนนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่ สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ “สปอร์ต แอคคอร์ด 2018” 15-20 เม.ย. คีย์แมนกีฬาทั่วโลก ทั้งไอโอซี หรือฟีฟ่า ก็จะมาร่วม ก็ต้องดูว่าจะมีประเด็นการเมืองระหว่างประเทศกับกีฬาอะไรออกมาอีกหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ บิ๊กๆกีฬาโลกทั้งหลาย คงจะได้พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีผู้เกรียงไกรของเรา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯผู้ยิ่งใหญ่ ที่สวมหมวกเป็นประธานโอลิมปิกไทยอยู่ด้วย เตรียมการกันไว้เรียบร้อย
กีฬากับการเมืองจะแยกกันได้ไง...
“เบี้ยหงาย”