ต่างชาติเหมาแชมป์! ‘สัญชัย-ลินดา’ ทำเวลาดีสุดของไทย อะเมซิ่งไทยแลนด์

จอมอึด “โมร็อกโก-เอธิโอเปีย” ประเดิมแชมป์ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2018 พรีเซ็นเต็ด บาย โตโยต้า” ขณะที่ “สัญชัย-ลินดา” ทำเวลาดีสุดของนักวิ่งไทย ด้าน “ผู้ว่าฯ ททท.” สุดปลื้มจัดครั้งแรกประสบความสำเร็จ ช่วยโปรโมตท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ...

วันที่ 5 ก.พ.61 การแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับโลก รายการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2018 พรีเซ็นเต็ด บาย โตโยต้า” ได้มีการแข่งขันขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกันปล่อยตัวนักกีฬาจากจุดสตาร์ตจากราชมังคลากีฬาสถาน ไปเข้าเส้นชัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

โดยผลการแข่งขันระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ปรากฏว่า โอเวอร์ออล ชาย รางวัลชนะเลิศตกเป็นของ อานัวอาร์ เอล กูซห์ จากโมร็อกโก ด้วยเวลา 2.18.41 ชั่วโมง คว้าแชมป์รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท, รองชนะเลิศ มอยเบน ลาบาน คิปเคมอย จากเคนยา เวลา 2.18.43 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 100,000 บาท และอันดับ 3 เกซาเฮกน์ อเลมายเยฮู อาเบเบ้ จากเอธิโอเปีย เวลา 2.18.45 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนนักกีฬาชายไทยที่ทำเวลาดีที่สุดคือ สัญชัย นามเขต นักวิ่งทีมชาติไทยทำเวลาได้ 2.27.44 ชั่วโมง อยู่อันดับ 14

ขณะที่โอเวอร์ออล หญิง รางวัลชนะเลิศ เชวาร์เก้ อาเลเน่ อามาเร่ จากเอธิโอเปีย ทำเวลาได้ 2.50.54 ชั่วโมง คว้าแชมป์รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 200,000 บาทเช่นกัน, รองชนะเลิศ มาร์กาเร็ต เอ็นจูกูน่า จากเคนยา เวลา 2.51.05 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 100,000 บาท และอันดับ 3 เชมมูทาย อิมมาคูลาเต้ จากยูกันดา เวลา 2.51.53 ชั่วโมง รับเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนนักกีฬาหญิงไทยที่ทำเวลาดีที่สุดคือ ลินดา จันทะชิต นักวิ่งสาววัยเพียง 25 ปี จากหนองคาย ทำเวลาได้ 3.00.50 ชั่วโมง อันดับ 7 รับเงินรางวัล 12,000 บาทอีกด้วย

ลินดา จันทะชิต กล่าวว่า การวิ่งรายการนี้ถือเป็นรายการที่ 6 เท่านั้น เพราะเพิ่งหันมาวิ่งมาราธอนจริงจังไม่นาน ซึ่งก่อนมาก็กลัวอยู่บ้างเรื่องสภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อม เพราะต้องวิ่งผ่านใจกลางกรุงเทพฯ แต่เมื่อวิ่งจริงทุกอย่างเป็นไปด้วยดี มีวิวจุดสำคัญของกรุงเทพฯ ให้ชมตลอดเส้นทาง ทำให้สนุกกับการวิ่ง ส่วนเรื่องสถิติพอใจมาก เพราะตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องทำเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง 10 นาที แต่ทำได้ดีเกินคาด อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่ไม่ร้อน

ส่วนผลระยะอื่น ดังนี้ ฮาล์ฟ มาราธอน 21.10 กิโลเมตร โอเพ่นชาย อันดับ 1 ปีเตอร์ เอ็นดุนกู วานยูออยเก้ เวลา 1.05.12 ชั่วโมง, อันดับ 2 เบเคเล่ เรต้า จิม่า เวลา 1.05.20 ชั่วโมง, อันดับ 3 พอล คิมานี เวลา 1.08.54 ชั่วโมง ขณะที่โอเพ่นหญิง อันดับ 1 ซิวดิตู อเชนาฟี่ วอร์กี้ เวลา 1.17.07 ชั่วโมง, อันดับ 2 เอสเธอร์ วามบุย คาริมี่ เวลา 1.17.23 ชั่วโมง, อันดับ 3 อดาวอรึ อเบอร์ต้า ซาดูร่า เวลา 1.18 ชั่วโมง

ระยะแบงค็อก แบงค์ รัน 10 กิโลเมตร โอเพ่นชาย อันดับ 1 ตาริกู เดเมแลช อเบร่า เวลา 29.54 นาที, อันดับ 2 คิปแชร์แชร์ เลล เวลา 29.59 นาที, อันดับ 3 ซาฮิลู วอร์กู เมนกิสเต้ เวลา 30.30 นาที โอเพ่นหญิง บีเซ่ เบยิร่า เนเกซ่า เวลา 35.31 นาที, อันดับ 2 ลดแก้ว อินทะกุมมาน เวลา 36.23 นาที และอันดับ 3 เอเมเบต โซเด้ นิกูเซ่ เวลา 37.41 นาที

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ยินดีกับนักวิ่งทุกคน ซึ่งทุกคนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ของการแข่งขันรายการนี้ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก พวกเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จ โดยครั้งนี้ทางไอรอนแมนที่จัดมาราธอนระดับโลกเข้ามาจัดการแข่งขันเพื่อให้มีมาตรฐานระดับโลก ส่วนความคาดหวังเราอยากให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้นทั้งนัยยะของการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ

ผู้ว่าการ ททท. กล่าวอีกว่า จากผู้เข้าร่วมกว่า 25,000 คน เราคำนวณการจับจ่ายใช้เงินต่อหัวตกคนละ 2-3 พันบาท ซึ่งภายในวันเดียวคาดว่าจะมียอดเงินสะพัดนับพันล้านบาทในทางตรง อีกทั้งในทางอ้อมยังหวังให้ผู้เข้าร่วมทุกคนเกิดความประทับใจ และส่งต่อประชาสัมพันธ์ให้คนทั่วโลกรู้จักกรุงเทพฯ และประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยในปีต่อไปเราก็จะพัฒนาการแข่งขันนี้รายการเป็นเมเจอร์ระดับโลกต่อไปด้วย

นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ททท. ที่ให้โอกาสโตโยต้าได้มีส่วนร่วมกับการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ปีนี้โตโยต้ามีแนวคิด “LIVE A LIVE” คือการ ออกมาใช้ชีวิต เน้นให้ทุกคนออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้ง ออกมาสนุกกับชีวิต ออกมาทำกิจกรรมกับคนในครอบครัว และเรื่องความรักกับคนในครอบครัว ซึ่งก็ตรงกับอะเมซิ่ง มาราธอน ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถออกมาวิ่งได้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมาโตโยต้าได้เข้าไปมีส่วนในกิจกรรมกีฬาต่างๆ มากมาย อาทิ ฟุตบอล, มวย และพร้อมจะเข้าไปมีส่วนกับการพัฒนากีฬาชนิดอื่นๆ ในอนาคต

“ส่วนในปีต่อไปเราคงต้องกลับไปทบทวนถึงความสำเร็จในปีนี้ และคิดว่า ควรจะเพิ่มกลยุทธ์อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องของการวิ่ง เพราะอย่างไรก็ตามเรื่องของการวิ่งก็คงจะต้องทำต่อเนื่องต่อไป” นายรุ่งโรจน์กล่าวปิดท้าย.