ไทยรัฐฉบับพิมพ์
กกท.ส่งนักกีฬาคนพิการเยาวชน ทีมชาติไทย 77 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ 48 คน รวม 125 คนเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนยูธพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2560 ระหว่างวันที่ 10-13 ธ.ค.นี้ ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยร่วมชิงชัยใน 7 ชนิดกีฬา ตั้งเป้าคว้า 15 เหรียญทอง
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เปิดเผยถึงการส่งนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าแข่งขันรายการเอเชียนยูธพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2560 ระหว่างวันที่ 10-13 ธ.ค.นี้ ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ว่า การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งที่ผ่านมานั้นไทยได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมาโดยตลอด การแข่งขันรายการนี้เป็นเกมที่สร้างโอกาสให้กับนักกีฬาคนพิการในระดับเยาวชนได้เข้าแข่งขัน เพราะจากที่ผ่านมาจะเห็นว่าการแข่งขันของนักกีฬาคนพิการมีแต่ในระดับประชาชน เช่น พาราลิมปิกเกมส์ หรือเอเชียนพาราเกมส์ ทำให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเก็บประสบการณ์เพื่อสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมาทดแทนรุ่นประชาชน
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ กกท.ได้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทั้งสิ้น 7 ชนิดกีฬา พร้อมด้วยทัพนักกีฬาชุดใหญ่ 125 คน แบ่งเป็นนักกีฬา 77 คน และเจ้าหน้าที่อีก 48 คน ใช้งบประมาณในการสนับสนุนการเตรียมนักกีฬา 11.2 ล้านบาท และงบประมาณในการส่งแข่งขัน 9.8 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 21 ล้านบาท โดยทั้ง 4 สมาคมกีฬาคนพิการ ได้ตั้งความหวังรวมกันทั้งสิ้น 15 เหรียญทอง
“อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเรื่องของเหรียญรางวัลแล้ว สิ่งที่ทาง กกท.เล็งเห็นเอาไว้คือประสบการณ์ของนักกีฬาที่จะได้จากการแข่งขันนั้นคือสิ่งที่มีค่ามากกว่า นอกจากนี้ จะเป็นการจุดประกายให้กับนักกีฬาคนอื่นๆได้เห็นและมีความหวังในการที่จะเข้ามาเป็นนักกีฬา”
นายณัฐวุฒิกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างหนึ่งต้องยอมรับว่าการเตรียมตัวครั้งนี้ค่อนข้างสั้น ใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น แต่ กกท.ได้พยายามเตรียมนักกีฬาด้วยระบบปกติเหมือนการเตรียมทีมชาติทุกประการ นอกจากนี้ ยังได้นำไทยเฮาส์มาตั้งที่ยูเออี เพื่อเป็นการให้บริการนักกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร, การกายภาพ รวมไปถึงทีมแพทย์ เหมือนซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ ทั้งหมด
“ในส่วนของเงินรางวัลนั้น ต้องยอมรับว่าชื่อรายการนั้นไม่ได้อยู่ในระเบียบของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ แต่คงต้องนำเข้าไปประชุมกับคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ อาจจะเป็นการออกระเบียบเพิ่มเติม หรือว่าใช้เป็นการเทียบเคียงก่อน แต่สิ่งสำคัญคืออยากให้นักกีฬามุ่งมั่นกับการแข่งขันและหาประสบการณ์เพื่อเป็นการต่อยอดมากกว่า” รองผู้ว่าการ กกท.กล่าว
อนึ่ง สำหรับการแข่งขันเอเชียนยูธพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2560 มีการแข่งขันทั้งสิ้น 7 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, โกลบอล, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ และเทเบิลเทนนิส