ไร้คู่แข่ง! ผบ.ทร. ผงาดนั่งแท่นนายกเรือใบฯ คนใหม่

พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯคนใหม่ แบบเป็นเอกฉันท์ หลังได้รับการเสนอชื่อแต่เพียงผู้เดียว ขณะเดียวกัน เตรียมสานงานต่อลุยเอเชียนเกมส์-โอลิมปิก...

วันที่ 23 พ.ย.60 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ห้องไชยญาติ นันทอุทยานสโมสร พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะนายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมใหญ่พิเศษ ประจำปี พ.ศ.2560 โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ แทน พล.ร.อ.ไกรสร ที่จะดำรงตำแหน่งครบตามวาระ 2 ปี (พ.ศ.2558-2560) ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้

สำหรับการประชุมในวันนี้มีสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเข้าร่วม 96 คนจาก 263 คน ประกอบด้วย สมาชิกกิตติมศักดิ์ 1 คน, สมาชิกตลอดชีพ 79 คนจาก 212 คน, สมาชิกสโมสร 16 คนจาก 33 คน ส่วนสมาชิกรายปี 17 คนไม่มาทั้งหมด ถือว่าครบตามวาระการประชุม เนื่องจากเกิน 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกตามข้อบังคับของสมาคมฯ

ก่อนเข้าวาระสำคัญ พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ารับตำแหน่ง สมาคมฯได้รับคะแนนประเมินจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพียง 2.8 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 ก่อนที่ล่าสุดจะยกระดับได้คะแนนถึง 4.4 คะแนน ซึ่งถือว่าการบริหารที่ผ่านมาเดินมาถูกทาง นอกจากนี้ ผลงานที่สมาคมฯทำมาตลอดโดยเฉพาะในการแข่งขันชิงแชมป์โลกออพติมิท เวิลด์ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย ถือว่ายอดเยี่ยม เครดิตทั้งหมดต้องยกให้นักกีฬา สโมสรสมาชิก ทีมบริหาร รวมถึงผู้สนับสนุนทุกราย หากไม่ได้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจคงไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้

เมื่อเข้าสู่วาระเลือกตั้ง ที่ประชุมได้แต่งตั้ง พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง เป็นประธานดำเนินการ จากนั้นได้มีการเสนอชื่อ พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนปัจจุบัน เข้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯแต่เพียงผู้เดียว ก่อนที่สมาชิกทั้งหมดจะลงมติรับรองให้ พล.ร.อ.นริส นั่งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาเรือใบฯ คนที่ 16 แบบเป็นเอกฉันท์

หลังการประชุม พล.ร.อ.ไกรสร เปิดเผยว่า สิ่งที่อยากให้นายกสมาคมฯคนใหม่สานต่อคือเรื่องของตัวนักกีฬาและโค้ช ไม่อยากให้ยึดติดอยู่กับนักกีฬากลุ่มเดียว ต้องมีตัวตายตัวแทน เพราะก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งนั้นเรามีนักกีฬาน้อยมาก ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะคัดตัวนักกีฬารุ่นใหม่ขึ้นมาได้ส่วนหนึ่ง ก็คิดว่านโยบายนี้น่าจะต้องต่อเนื่องเพื่อให้มีนักกีฬาทดแทนรุ่นต่อไป

สำหรับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ปีหน้า มองว่าทัพเรือใบไทยคงเจองานหนัก หากดูจากผลการแข่งขันในซีเกมส์ 2017 ที่ผ่านมาเราทำผลงานดีขึ้นจริง แต่ชาติอื่นก็ดีขึ้นเช่นกัน อีกทั้งครั้งนี้ยังมีเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงกลุ่มประเทศที่แยกมาจากรัสเซียด้วย หากเตรียมการไม่ดีเราอาจไม่มีที่ยืนในเอเชียนเกมส์ รวมถึงโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต จากนี้สมาคมฯคงต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อในศักยภาพของนายกสมาคมฯคนใหม่จะสามารถจัดการบริหารทุกอย่างได้เป็นอย่างดี