ไทยรัฐฉบับพิมพ์
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาครบรอบ 15 ปีแล้ว กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอทำงานหนักต่อเนื่องต่อไป เพื่อพัฒนากีฬาไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะโครงการโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หรือโรดทูโตเกียว, โครงการสานฝันฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก และการผลักดันมวยไทยสู่โอลิมปิกเกมส์ ที่จะต้องสานต่อให้สำเร็จ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีการจัดงานครบรอบ 15 ปี วันคล้ายวันสถาปนากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวง, นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), ดร.ปัญญา หาญลำยวง อธิบดีกรมพลศึกษา รวมทั้งผู้บริหารกระทรวง ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ, ข้าราชการ, เจ้าหน้าที่ และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงานกันคับคั่ง ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สักการะศาลพระภูมิ ณ สวนสี่ภาค ภายในกระทรวง ก่อนที่จะมีพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ตามด้วยพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และได้มีการถวายภัตตาหารเพล และเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จากนั้นได้รับมอบการบริจาคอุปกรณ์กีฬาจากหน่วยงานต่างๆ และได้ร่วมกันปลูกต้นดาวเรืองบริเวณด้านหน้ากระทรวง เพื่อความเจริญรุ่งเรืองด้วย
นางกอบกาญจน์เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาครบรอบ 15 ปีแล้ว ซึ่งถือว่า เดินทางมาไกลพอสมควร และกว่าจะก้าวมาประสบความสำเร็จ ณ จุดนี้ได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายส่วน ซึ่งต้องขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่ทำงานร่วมกันมาโดยตลอด จนปัจจุบันนี้ มีคนเล่นกีฬามากขึ้น ความสามารถของนักกีฬาในการคว้าเหรียญจากการแข่งขันระดับนานาชาติก็มีมากขึ้นด้วย แต่เราก็ยังต้องทำงานกันอย่างหนักต่อไป เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพตามแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9
“อายุเป็นเพียงตัวเลข เราจะอายุสิบห้า หรือห้าสิบ แต่เราจะยังมีศรัทธาในสิ่งที่เราทำแน่นอน และทำตามแนวทางศาสตร์แห่งพระราชา ซึ่งหลังจากนี้ เราจะทำงานกันต่อไปอย่างหนัก ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพื่อทำให้การท่องเที่ยวและการกีฬามีการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นางกอบกาญจน์กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า กีฬานับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการพัฒนาคนต้องใช้กีฬา ซึ่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดเสมอว่า กีฬาพัฒนาคน และคนพัฒนาชาติ รวมทั้งกีฬายังสร้างความเข้มแข็งทางร่างกายและจิตใจ สร้างระเบียบวินัย ความพากเพียร ดังนั้นจะต้องมีการพัฒนากีฬามากขึ้น ทั้งการพัฒนานักกีฬา, โค้ช, กรรมการ, สมาคมกีฬา และวิทยาศาสตร์การกีฬาด้านต่างๆ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาไปสู่เป้าหมายต่างๆ โดยวงการกีฬาไทยมีภารกิจสำคัญทั้งการเดินหน้าไปสู่โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หรือโรดทูโตเกียว, โครงการสานฝันฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก และการผลักดันมวยไทยสู่โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในช่วงเดินหน้าเข้าสู่การทำงานเฟส 2 และ 3 ต่อไป
“นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังเน้นกีฬาเพื่อมวลชน โดยกรมพลศึกษาและสถาบันการพลศึกษา ซึ่งต่อไปจะยกระดับเป็นมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ เพื่อต้องการให้คนเล่นกีฬาและออกกำลังกายกันมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่ากีฬาสร้างคนทำให้ชาติไปสู่จุดหมายที่วางไว้ และสร้างสังคมให้มีคุณภาพ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะนำกีฬาควบคู่กับท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของชาติด้วย”