บี บางปะกง
ลุ้นกันชนิดปัสสาวะเหนียวเลยทีเดียว!! กับการคว้าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 16 ของทีมฟุตซอลชาติไทย ที่ดวลจุดโทษเอาชนะอินโดนีเซีย 5–3 หลังในเวลาเสมอกันสุดระทึก 2–2
สารภาพตามตรงเลยว่าตอนที่เราถูกอิเหนานำห่าง 2-0 แล้วเวลาหมดไปเรื่อยๆ ผมเริ่มถอดใจแล้ว และคิดว่าเราคงจะเสียแชมป์ให้อินโดฯแหงๆ
ต้องซูฮกในหัวจิต หัวใจ ความเป็นนักสู้ ของน้องๆนักเตะทุกคน ที่ไม่ยอมถอดใจเป็นผู้แพ้ง่ายๆ ตราบใดที่เวลายังไม่หมดลง
และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจนได้ในนาทีสุดท้าย ของเกม เมื่อ กฤษณ์ อรัญสัญญาลักษณ์ สะกิดบอล เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ทีมไทยไล่มาเป็น 1-2
ก่อนที่แฟนบอลในอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก จะได้เฮกันสนั่น!! จาก “เจ้าเหม็ด” มูฮัมหมัด
อุสมานมูซา ที่เป็นฮีโร่ยิงตีเสมอให้ทีมใน 30 วินาที สุดท้าย ชนิดหัวใจจะวายกันทั้งสนาม
ถึงตอนนั้นผมมั่นใจว่า ยังไงเราก็ต้องเป็น “แชมป์” อีกครั้งแล้วล่ะ เพราะอุตส่าห์โกงความตาย ลุกขึ้นจากหลุมมาซะขนาดนี้แล้ว
นั่นหมายความว่าพระเจ้าคงอยากเห็นเรา เป็นเจ้าโต๊ะเล็กอาเซียนมากกว่าแข้งชวาแน่ๆ
แล้วทีมฟุตซอลช้างศึกก็ทำได้จริงๆกับการชนะดวลจุดโทษแบบปราศจากแรงกดดันใดๆทั้งสิ้น หลังจากที่เราหลุดพ้นความเป็นความตายมาได้แล้วอย่างเหลือเชื่อ
นี่คือการคว้าแชมป์อาเซียนที่เหนื่อยที่สุด และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากที่สุดเลยก็ว่าได้
เพราะเราเป็นเจ้าภาพ เล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ ความจริงน่าจะชนะคู่แข่งในย่านนี้แบบสบายๆ
ไม่น่าจะต้องลุ้นกันสายตัวแทบขาดขนาดนี้
โดยเฉพาะ โค้ชคาร์ลอส เซซาร์ ตกเป็นเป้า กว่าใครเพื่อน เพราะเพิ่งเข้ามารับงานคุมทีมชาติเป็น ครั้งแรก แต่รูปแบบและสไตล์การทำทีมถูกเอาไป เปรียบเทียบกับกุนซือเก่าอย่างโค้ชปูลปิสอย่างเลี่ยงไม่ได้
“บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย กล่าวเปิดใจกับผมว่า เข้าใจในความรู้สึกของแฟนฟุตซอลบ้านเรา ที่อาจมองว่า ทีมฟุตซอลไทยก้าวไปถึงระดับโลกแล้ว ทำไมแค่ในย่านอาเซียนจึงแทบจะเอาไม่อยู่
ต้องเรียนตามข้อเท็จจริงเลยว่า เป้าหมายของทีมโต๊ะเล็กไทยในปีนี้ เรามองถึงเรื่องของการเปลี่ยนผ่านผู้เล่นสายเลือดใหม่เป็นหลัก
ดังนั้น นักเตะชุดเดิมจากฟุตซอลโลกจึงมีชื่ออยู่ใน ทีมแค่ 6 คน ส่วนที่เหลือเป็นแข้งใหม่ป้ายแดงแทบทั้งสิ้น
ยอมรับว่าเราต้อง “เสี่ยง” ที่จะใช้งานผู้เล่น ยุคใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของทีมฟุตซอลไทยต่อไปในอนาคต
เช่นเดียวกับยุทธวิธีการเล่นซึ่งต้องปรับไปสู่ ฟุตซอลสมัยใหม่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่เราจะถูกหลายชาติในอาเซียนแซงขึ้นไป
อินโดนีเซีย, เวียดนาม และมาเลเซีย ได้เปลี่ยนผ่านฟุตซอลของชาติเขาไปสู่ยุคใหม่กันแล้ว จะเห็นได้ว่าเกมโต๊ะเล็กในย่านนี้ปัจจุบันสูสีกันมาก
อย่านึกว่าเราพัฒนาอยู่ชาติเดียว ชาติอื่นเขาก็ พัฒนา ต่อไปเกมชิงแชมป์อาเซียนไม่ใช่งานง่ายแล้ว
ยิ่งเป็นการชิงเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ที่เวียดนามยิ่งไม่ต้องพูดถึง เป็นโจทย์ยากของทีมฟุตซอลไทยทั้งชายและหญิงอย่างแน่นอน
เราโชคดีที่มีเกมชิงแชมป์อาเซียนมาให้วัดฝีมือกันก่อน เชื่อว่าเด็กของเราชุดนี้คงได้รับประสบการณ์ ความแข็งแกร่งจากศึกนี้ไปไม่น้อย
ที่สำคัญทุกคนคงได้ความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น อีกอักโขกับตำแหน่งแชมป์ที่คว้ามาครองจนได้ แม้จะลุ้นกันเหนื่อยหน่อยก็ตาม
นอกจากนี้ “บิ๊กป๋อม” ยังฝากถึงแฟนฟุตซอล ชาวไทย ขอให้อดทนกับการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ของทีมโต๊ะเล็กไทยในคราวนี้
ตนอยู่กับฟุตซอลมานานกว่า 2 ทศวรรษแล้ว รู้ว่าควรต้องทำอย่างไร? ทีมโต๊ะเล็กของเราจึงจะพัฒนาก้าวเท้าไปข้างหน้าให้ทันโลกยุคใหม่
แต่แน่นอนทุกการเปลี่ยนแปลง ย่อมต้องใช้เวลา ขอเวลาให้โค้ชเซซาร์และน้องๆชุดนี้อีกสักหน่อย
เมื่ออะไรต่อมิอะไรเข้าที่เข้าทาง
เชื่อว่าทุกอย่าง...จะสมใจพวกเราทุกคน!!!
บี บางปะกง