หน้าแรกแกลเลอรี่

ดับเบิ้ลแชมป์ "การท่าเรือ" แม่นโทษดับบลูเวฟ 7-6 ซิวแชมป์ฟุตซอล FA Cup

ไทยรัฐออนไลน์

29 ธ.ค. 2561 17:15 น.

"การท่าเรือ เอเอสเอ็ม" ดวลจุดโทษเอาชนะ "พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี" 7-6 คว้าแชมป์ "ฟุตซอล เอฟเอ คัพ" ไปครอง และเป็นดับเบิ้ลแชมป์ของพวกเขาในปีนี้...

วันที่ 29 ธ.ค.61 การแข่งขัน ศึก เอไอเอส ฟุตซอล เอฟเอ คัพ 2018 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนาม ไอส์แลนด์ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้า แฟชั่น ไอส์แลนด์ รามอินทรา เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 14.45 น. เป็นการพบกันระหว่าง “ฉลามพลังเพลิง” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ลงสนาม พบกับ “สิงห์คลองเตย” การท่าเรือ เอเอสเอ็ม

โดยบรรยากาศ ก่อนเกมการแข่งขัน 1 ชั่วโมง มีแฟนฟุตซอลจำนวนมากแห่เดินทางเข้ามาร่วมชมการแข่งขัน แบบติดขอบสนาม จนล้นออกมาด้านนอก ไอส์แลนด์ ฮอลล์

เริ่มครึ่งแรก แค่เพียง 2 นาที กองเชียร์ “สิงห์คลองเตย” เป็นฝ่ายได้เฮก่อน เมื่อ วัชระ ลัยศรี รับบอลจากกลางสนาม ก่อนใช้ความสามารถเฉพาะตัว พาบอลหนีแนวรับ “ฉลามพลังเพลิง” เข้าไปยิงตุงตาข่าย การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ขึ้นนำ 1-0

แต่ในนาทีถัดมา กองเชียร์ “ฉลามพลังเพลิง” ได้เฮบ้าง เมื่อมาได้ประตูตีเสมอ แบบทันควัน จากลูกเตะมุม รูดิมาร์ เวนันซิโอ “ซาป้า” เปิดมาให้ กฤษดา วงษ์แก้ว ได้ยิงเข้าไป พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ตามตีเสมอ 1-1

รูปเกมยังคงเปิดแลกกันอย่างสนุก ซึ่งเป็น พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่ครองบอลสร้างจังหวะเข้าทำได้มากกว่า แต่ยังได้แค่หวาดเสียว ขณะที่ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม เน้นรับแน่นในแดน แล้วคอยหาจังหวะโต้กลับ

นาทีที 9 เกมสวนกลับ ของ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ทำประตูขึ้นนำอีกครั้ง ธนัญชัย ชมบุญ เปิดบอลไปที่เสาไกล ให้ พรมงคล ศรีทรัพย์ แสดง ได้ชาร์ตเน้นๆ ไม่พลาด สกอร์เป็น 2-1

หลังตกเป็นฝ่ายตามหลังอีกครั้ง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ยังคงเดินเกมบุกเต็มกำลัง ซึ่งก็มีโอกาสจบสกอร์อยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับ ของ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม เข้าไปได้

สถานการณ์ ของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ยังไม่ดีขึ้น เมื่อตกเป็นรองห่างเป็น 2 ประตู จังหวะเล่นพลาดก่อนโดนตัดได้ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม เล่นเกมโต้กลับเร็วและ เป็น ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง จบสกอร์ในจังหวะสุดท้ายไป หนีไปเป็น 3-1 ในนาทีที่ 17

นาทีที่ 19 “ฉลามพลังเพลิง” ที่ยังไม่ยอมแพ้ มาได้ประตูไล่มาเป็น 2-3 จากการทำเข้าประตูตัวเอง ของผู้เล่นการท่าเรือ เอเอสเอ็ม ก่อนจะจบครึ่งแรก ไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 22 พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ตามตีเสมอได้ตั้งแต่ต้นเกม จากลูกฟรีคิก รูดิมาร์ เวนันซิโอ “ซาป้า” เล่นลูกสูตรกับ กฤษดา วงษ์แก้ว ก่อนที่จังหวะสุดท้าย “กัปตันช้าง” จะยิงเสียบคานเข้าไป สกอร์เป็น 3-3

จากนั้นยังคงเป็น พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่เดินเกมบุกเข้าใส่ อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถยิงประตู การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ที่เล่นได้อย่างเหนียวแน่น เข้าไปได้ เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 3-3

นาทีที่ 35 กองเชียร์ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ได้เฮกันลั่น เมื่อมาได้ประตูออกนำอีกครั้งเป็น 4-3 จากจังหวะบอลยาวจากแดนหลัง ไปถึง อนุกูล มินิ หนีตัวประกบก่อนยกบอล ข้าม คฑาวุธ หาญคำภา เข้าไปอย่างสวยงาม

จาก “ฉลามพลังเพลิง” เล่นพาวเวอร์เพลย์ทันที และเพียงไม่กี่วินาที กฤษดา วงษ์แก้ว ก็มาพังประตูตีเสมอให้กับ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ได้ สกอร์เป็น 4-4

นาทีที่ 37 พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่ยังคงเล่นพาวเวอร์เพลยอย่างต่อเนื่อง ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 5-4 ครั้งแรกของเกมนี้ จากจังหวะยิงของ รูดิมาร์ เวนันซิโอ “ซาป้า” ที่ได้กดเต็มๆ เสียบสามเหลี่ยมเข้าไป

แต่ทว่าถัดมาไม่กี่อึดใจ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ที่เล่นพาวเวอร์เพลย์ทันทีเช่นกัน ก็มาได้ประตูตีเสมอแบบทันควัน เป็น 5-5 จากการยิงของ ธนพล มณีเพชร และ เป็นสกอร์สุดท้ายในช่วง 40 นาที ของการแข่งขันในเวลาปกติ ต้องมาตัดสินหาทีมแชมป์ ด้วยการยิงลูกโทษที่จุดโทษ

และเป็น การท่าเรือ เอเอสเอ็ม ที่ยิงได้แม่นยำกว่า เอาชนะ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ไปด้วยสกอร์รวม 7-6 คว้าแชมป์ ศึก เอไอเอส ฟุตซอล เอฟเอคัพ 2018 ไปครอง