ไทยรัฐออนไลน์
อดีตภรรยาสามารถ ขีดเดดไลน์ 25 มีนาคม ต้องแบ่งสมบัติให้เรียบร้อย หลังยืดเยื้อมานาน
วันที่ 17 มีนาคม 2568 ย้อนไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นางสาววลัยทิพย์ หรือ หญิง ภพธีรธรรม นักธุรกิจสาวอดีตภรรยานัก สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตยอดมวยไทยชื่อดัง เปิดใจถึงการแบ่งทรัพย์สินระหว่างตนกับอดีตสามี ว่าต้องการแบ่งกันคนละครึ่งตามคำพิพากษาของศาลฎีกา และจะได้ไปใช้ชีวิตใหม่ต่อไป
แต่มาถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยทรัพย์สินที่ต้องจัดการคือ ที่ดินที่มีอยู่ที่สายไหม บ้าน 2 หลัง ค่ายมวย สิ่งปลูกสร้าง ให้เป็นกรรมสิทธิ์รวม ซึ่งศาลให้แบ่งกันเองก่อน ถ้าแบ่งไม่ได้ให้ประมูลกันเอง แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องบังคับคดีขายทอดตลาดและนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าราว 40 ล้านบาท
ล่าสุด “หญิง” เปิดใจผ่านสื่ออีกครั้งว่า “ศาลให้เวลาหลังฟังคำพิพากษาแล้ว ซึ่งให้เวลาอีก 30 วัน เพื่อตกลงกัน ซึ่งเราไปฟังศาลท่านพิพากษาคือวันที่ 29 มกราคม ตอนนี้เลย 30 วันมาแล้ว วันที่ 8 ก.พ. เจ้าหน้าที่ศาลไปปิดหมายที่บ้าน เป็นคำบังคับคดีคำสั่นศาล หลังจากนั้นนับมาอีก 45 วัน ก็คือวันที่ 25 มี.ค. ก็ยังมีเวลาถึงวันที่ 25 มี.ค. ที่เราจะมาประชุมมาปรึกษาเพื่อแบ่งทรัพย์กัน”
“ที่ผ่านมาตั้งแต่ไปศาลมา 3 ศาลก็ไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกัน แต่เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมาแกได้ตอบสื่อว่ากำลังให้ทนายเตรียมเอกสารอยู่อีก 30 วันจะออกมาชี้แจง แต่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีการแจ้งหรือชี้แจงใดๆ ทางเราก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาค่ะ ขึ้นศาลสุดท้ายก็ไม่ได้เจอแกเพราะแกไม่ไป ทนายก็ไม่ไป ทนายเขามอบฉันทะให้เสมียนไปแทน”
“แล้วถ้าเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายแล้ว ใครสนใจทรัพย์สินตรงค่ายมวยติดต่อหญิงมาได้เลยนะคะ หญิงพร้อมมากๆ มีโรงยิม มีเวทีมวย ห้องพักลูกค้าเป็นตึกเหมือนอพาร์ตเมนต์เลย มีทั้งห้องพักนักมวย ห้องพักเทรนเนอร์ ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องฟิตเนส ออฟฟิต ตรงนั้นก็ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสถานีคูคตด้วย จอดรถสะดวกสบาย เรียกว่าพร้อมใช้งานพร้อมทำธุรกิจได้เลย ใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่ เพจ Ying's Lively”
“ศาลมีคำสั่งชัดเจนหลังจากพิพากษาแล้ว 30 วัน ถ้าฝ่ายใดไม่ปฏิบัติตาม จะมีการจับ คุมขัง ยึดทรัพย์ ซึ่งหลังคำพิพากษาศาลท่านก็ระบุชัดเจนว่าหลังจากพิพากษาแล้ว 30 วันถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ปฏิบัติตามก็จะมีการจับ คุมขัง ยึดทรัพย์ ประมาณนี้เลยนะ ทางกฎหมายระบุไว้ประมาณนี้เลย แกรู้หรือเปล่า เขาต้องทราบนะ อยากจะถามเขาเหมือนกันว่าพี่รู้หรือเปล่าว่ามันมีโทษนะคะ พี่ไม่เคลียร์มันจะยิ่งบานปลาย”
“ก็อยากจะบอกพี่ไว้ว่าการบังคับคดีหรือการขายทอดตลาดมันไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเราทั้งสองฝ่าย หญิงว่าเรามาคุยกันและแยกย้ายกันแบบถาวรดีกว่า ต่างคนต่างไปใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า บั้นปลายชีวิตพี่แล้ว”