ไทยรัฐออนไลน์
ต้นตำรับมาเอง ? เจ้าของฉายา จา พนม แห่งกัมพูชา โชว์ลีลาท่าทาง ศิลปะป้องกันตัวเขมร ยํ้าชัดว่าไม่ได้ลอกเลียนแบบใครมา
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีดราม่าของ มวยไทย กับ กุน ขแมร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ กัมพูชา อ้างว่า ไทยได้นำศิลปะการต่อสู้ของพวกเขามาประยุกต์ใช้และปรับเป็นมวยไทย ก่อนจะโด่งดังไปไกลสู่สายตาชาวโลก จนถูกรับรองโดย คณะกรรมการโอลิมปิก และพาราลิมปิกแห่งสหรัฐอเมริกา (USOPC) เป็นที่เรียบร้อย มีลุ้นจะถูกบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาเข้าชิงชัยเหรียญทองในอนาคตอันใกล้
ล่าสุด DY Sao หรือเจ้าของฉายา จา พนม แห่งกัมพูชา ได้โพสต์คลิปขณะตนเองกำลังโชว์ลีลา มวย "กัมพูชา" พร้อมใส่แคปชั่นว่า "ผมดีไซน์ศิลปะป้องกันตัวขึ้นมา ไม่ได้เขียนหรือกำกับหนัง"
"ขอบคุณชาวกัมพูชาที่สนับสนุนกันเสมอมา ภูมิใจในความเป็นกัมพูชา"
ชาวเน็ตแห่จับผิดศิลปะป้องกันตัวที่อ้างว่าเป็นของกัมพูชา เช่น
- การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์
การใช้ท่าต่างๆ เป็นการฝึกฝนกล้ามเนื้อที่ดี
แต่ชุดแต่งกายในการใช้เชือกพันมือและแขน เป็นกีฬามวยชนิดหนึ่งในไทยและในประเทศพม่าเรียกว่า เลธเหว่ย ในอดีตจนถึงปัจจุบัน กัมพูชาไม่เคยมีการชกมวยที่ใช้เชือกมัดมือและแขนแบบนี้ คงมีแต่ในประเทศพม่าและประเทศไทย (ลดการจัดแข่งขันลงเนื่องจากทำให้คู่ต่อสู้อาจเสียชีวิตได้) เวลามองเราจะเห็นเป็นวัฒนธรรมหรือกีฬาประเทศอื่นไป
- ผลของการดูองค์บากเยอะ
- Thank you for loving Muay Thai. (ขอบคุณที่รักมวยไทย)
- ต้นตำรับทำไมเพิ่งทำวิดีโอเผยแพร่ ทำไมไม่ส่งเสริมอนุรักษ์ตั้งแต่เมื่อ 50 60 หรือ 100 ปีก่อน ทำไมเพิ่งมาทำ พอเห็นพี่ไทยส่งเสริมอนุรักษ์จนมีชื่อเสียงระดับโลกก็มาอ้างทันที เช่นเดียวกันกับโขน และประเพณีสงกรานต์ อย่างนี้จะเรียกว่าใครก๊อปของใครกันแน่
สำหรับท่าทางดังกล่าว ของ DY Sao เจ้าตัวได้ลงคลิปเพื่อโปรโมต เพราะได้เป็นหนึ่งในนักแสดงของหนังดัง กัมพูชา เรื่อง Hanukmean SHADOW MASTER ซึ่งฉายในโรงภาพยนตร์กัมพูชา ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา