หน้าแรกแกลเลอรี่

สภามวยโลก ร้อง “บิ๊กตู่” มีองค์กรอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ “มวยไทย” อ้างรัฐบาลไทยหนุนหลัง

ไทยรัฐออนไลน์

9 ก.พ. 2566 06:00 น.

สภามวยโลก ร้อง “บิ๊กตู่” มีองค์กรอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ “มวยไทย” แต่เพียงผู้เดียว แถมอ้างว่ามีรัฐบาลไทย ให้การสนับสนุน

วันที่ 8 ก.พ. 66 สภามวยโลก ร้อง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีองค์กรหนึ่งอ้างสิทธิ์ในการควบคุมกีฬามวยไทยแต่เพียงผู้เดียวทั่วโลก และอ้างรัฐบาลไทย ให้การสนับสนุน เมื่อทราบเช่นนั้น “บิ๊กตู่” สั่งการให้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. แก้ปัญหาอย่างเด็ดขาดและเร็วที่สุดทันที ขณะที่ผู้ว่าฯ ก้องศักด แจงต่อหน้า นายกฯ ประยุทธ์ และ มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก ระบุ มวยไทยไม่มีองค์กรใดเป็นเจ้าของ ใครก็จัดมวยไทยได้ แต่ต้องดำเนินการภายใต้กติกา ที่ถูกต้อง

จากกรณีที่ มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก เข้าเยี่ยมคารวะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ในโอกาสเยือนประเทศไทย ภายหลังร่วมงาน Amazing Muay Thai Festival ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

มีรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการสนทนา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการมวยไทย ที่มีองค์กรหนึ่ง อ้างสิทธิในการควบคุมกีฬามวยไทยแต่เพียงผู้เดียวทั่วโลก และอ้างว่ารัฐบาลไทยให้การสนับสนุน ซึ่งมีการยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติไทย และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย และเป็นของคนไทยทุกคน ไม่มีองค์กรใด จะมาอ้างสิทธิเป็นเจ้าของได้ จึงได้สั่งการให้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ด้วย แก้ปัญหานี้อย่างเด็ดขาดโดยเร็วที่สุด

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี กล่าวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า กรณีดังกล่าว ทางสภามวยโลก ได้เล่าให้ นายกรัฐมนตรี ฟังว่า เกิดความไม่เข้าใจกันกับองค์กรด้านมวยไทย ในการจัดการแข่งขันมวยไทย ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เกิดอุปสรรคปัญหาพอสมควรในการจัดการแข่งขัน ซึ่งตนได้ยืนยันต่อหน้า นายกรัฐมนตรี และ มัวริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก ว่า มวยไทยไม่มีองค์กรใดเป็นเจ้าของ ใครๆ ก็จัดมวยไทยได้ เพียงแต่ต้องดำเนินการขออนุญาตจัดภายใต้กติกาที่ถูกต้อง.

ขอบคุณภาพจาก : Banchamek Gym (Buakaw Banchamek)