ไทยรัฐออนไลน์
คณะกรรมการโอลิมปิคไทย แฉ “กุน ขแมร์" ในซีเกมส์ 2023 จัดแข่งแบบปล่อยฟรี ไม่มีการรับรองจากองค์กรกีฬานานาชาติ
วันที่ 31 ม.ค. 66 หลังจาก กัมพูชา เจ้าภาพ ซีเกมส์ 2023 ใช้สิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ นำศิลปะการต่อสู้ "กุน ขแมร์" มาใส่ไว้ในซีเกมส์ 2023 แทนที่กีฬา "มวยไทย" ด้วยเหตุผลอ้างว่าการแข่งขัน "กุน ขแมร์" เป็นต้นกำเนิดของ "มวยไทย" และเพื่อแสดงจุดยืนว่าตนเป็นเจ้าของวัฒนธรรมของศิลปะการป้องกันตัวดังกล่าว ตามความปรารถนาของชาวกัมพูชา จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้
ล่าสุด นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ พร้อมด้วย ศ.(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน และนพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะมนตรีซีเกมส์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงการแข่งขันกีฬามวยไทย ในชื่อ กุน ขแมร์ ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ถนนศรีอยุธยา
นายชัยภักดิ์ กล่าวว่า “ในการประชุมกำหนดชนิดกีฬาที่ผ่านมา มีการกำหนดกีฬามวยไทยแข่งขันชิงทั้งหมด 17 เหรียญทองมาโดยตลอด จนถึงการกำหนดชนิดกีฬาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่มีการตัดชนิดกีฬาเพาะกายกับลีลาศออก จากนั้นในการส่งคู่มือการแข่งขันให้แต่ละประเทศครั้งแรกของกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 มกราคม ยังคงใช้สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟม่า) เป็นผู้จัดการแข่งขันอยู่ แต่หลังจากนั้นในวันที่ 18 และ 30 มกราคม จะมาเปลี่ยนเป็นสหพันธ์กุน ขแมร์ นานาชาติ (เคไอเอฟ) ดูแลแทน”
“ในการประชุมสำนักงานซีเกมส์ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องของกุน ขแมร์ มาก่อนเลย มีเพียงการทำหนังสือเปลี่ยนชื่อมา พร้อมกับมีการวงเล็บคำว่ามวย เอาไว้หลังคำว่ากุนขแมร์แทน ซึ่งประเด็นนี้คณะกรรมการโอลิมปิคไทยฯ ไม่สามารถเข้าไปขัดขวางได้ เพราะไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ”
ศ.(พิเศษ) เจริญ กล่าวว่า “จริงๆ แล้วประเทศใดก็ตามที่เป็นเจ้าภาพควรจะยึดธรรมนูญซีเกมส์เป็นบรรทัดฐานในการจัดการแข่งขัน ซึ่งในธรรมนูญซีเกมส์ยืนยันชัดเจนว่ากีฬาใดๆ ที่จะจัดการแข่งขันจะต้องได้รับการรับรองจากสหพันธ์ที่ได้รับการรับรองโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) หรือสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) แต่เคไอเอฟไม่มีหลักฐานการรับรองจากทั้งสองคณะกรรมการใดๆ เรื่องนี้ได้มีการแย้งและลงบันทึกในที่ประชุมมนตรีซีเกมส์ไปแล้ว แต่ถ้าสุดท้ายเจ้าภาพจะยังต้องการจัดต่อ ทางมนตรีซีเกมส์ก็ไม่เข้าไปก้าวล่วงเจ้าภาพแต่อย่างใด”
ด้าน นพ.วารินทร์ กล่าวว่า “ในธรรมนูญซีเกมส์เอง นอกเหนือจากการได้รับรองโดย 2 สหพันธ์แล้ว ก็จะต้องได้รับรองจากองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ด้วย เท่ากับว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์กีฬาที่เป็นระดับนานาชาติใดๆ เลย”
นายชัยภักดิ์ กล่าวเสริมว่า “เมื่อเจ้าภาพยืนยันว่าจะจัดการแข่งขันกุน ขแมร์ ขณะที่ทางสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้รับคำเตือนจากอิฟม่าว่าห้ามส่งการแข่งขัน ฉะนั้นคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯก็จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกุน ขแมร์ในซีเกมส์ครั้งนี้”
นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ก็จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกีฬากันตามใจชอบเจ้าภาพ เพราะว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงธรรมนูญการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ใหม่เพื่อรองรับการแข่งขันในอีก 2 ปีข้างหน้าที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ โดยจะปรับลำดับขั้นชนิดกีฬาใหม่ทั้งหมด จากเดิมกีฬาหลักมีแค่ 2 ชนิดคือกรีฑากับกีฬาทางน้ำ ก็จะเพิ่มมาเป็น 15-17 ชนิดกีฬา ที่อิงจากโอลิมปิกเกมส์และเอเชี่ยนเกมส์ และประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพจะต้องจัดให้ได้ครบทุกชนิดกีฬา จากนั้นกีฬารองลงมาก็จะอยู่ที่เจ้าภาพเลือกนำมาใส่ และลำดับสุดท้ายคือกีฬาพื้นบ้าน จะถูกจำกัดให้เหลือแค่ 2-5 ชนิดกีฬาเท่านั้น โดยตอนนี้ไทยได้ทำบันทึกข้อตกลงกับมาเลเซีย เจ้าภาพ 2027 และสิงคโปร์ เจ้าภาพ 2029 แล้ว ว่าจากนี้ไป 3 ครั้งซีเกมส์จะใช้ชนิดกีฬาเดียวกันหมด ดังนั้นจะเป็น 3 ครั้งที่เป็นมาตรฐานที่สุด
ศ.(พิเศษ)เจริญ กล่าวว่า เรื่องนี้ยอมรับว่าหนักใจเพราะจำเป็นต้องใช้ถึง 6-7 เสียงจาก 11 ประเทศ ในการเห็นชอบธรรมนูญใหม่นี้ แต่จะพยายามผลักดันให้ได้เพื่อความยั่งยืนของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ให้เป็นกีฬาที่มีมาตรฐานที่ดีที่สุด