"ไทฟุน ออสแคน" ลั่นขอเป็นผู้กำราบ "สิทธิชัย" ในศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์

"ไทฟุน ออสแคน" นักชกคิกบ็อกซิ่งตัวท็อปชาวตุรกี พร้อมเปิดตัวอย่างปังบนเวที ONE ลั่นจะกำราบ "สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง" ด้วยทีเด็ดสุดเซอร์ไพรส์ บนสังเวียน โดยทั้งคู่มีนัดฟาดปากกันในรอบแรก ของการแข่งขันคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.) ที่จะจัดให้มีขึ้นในศึก ONE: FIRST STRIKE ซึ่งจะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564

หลังจากได้รับอาการบาดเจ็บจนต้องถอนตัวและชวดชกกับ สิทธิชัย ในศึก ONE: BATTLEGROUND III เมื่อ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ไทฟุน นักชกหนุ่มไฟแรงวัย 30 ปี ก็พร้อมกลับมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการบนเวที ONE และยังได้ประมือกับคู่ต่อสู้ที่เขาอยากเจอมากที่สุดอย่าง สิทธิชัย สมความตั้งใจอีกด้วย

ศึกนี้กล่าวได้ว่าเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างสองนักชกตัวท็อประดับโลก ด้าน สิทธิชัย เคยครองความเป็นใหญ่ในฐานะนักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งกาจที่สุดเมื่อเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์เมื่อครั้งยังรั้งตำแหน่งแชมป์เวที Glory ขณะที่ ไทฟุน ก็เคยเป็นแชมป์ Enfusion ที่ปราบคู่ต่อสู้มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำจนหาคู่ชกไม่ได้

ในปี 2562 ไทฟุน จึงประกาศกร้าวว่า "เขาคือคนที่จะกำราบสิทธิชัย" และรอวันที่จะได้ประมือกับ สิทธิชัย ตลอดมา และเหมือนชะตาฟ้าลิขิต สุดท้าย ทั้งคู่ก็ได้โคจรมาเจอกันบนเวที ONE กันจริงๆ ครั้งนี้ ไทฟุน จึงมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะคว้าชัยตามที่ได้ลั่นวาจาไว้

นักชกหมัดหนักชาวตุรกีพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าพร้อมสถิติอันน่าทึ่ง ชนะ 83 แพ้ 8 เสมอ 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 13 ไฟต์ล่าสุดนับตั้งแต่ปี 2560 เขายังไม่เคยแพ้ใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แม้ ไทฟุน จะรู้ดีว่า สิทธิชัย คือด่านโหดหินในรอบแรกของศึกเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ครั้งนี้ แต่เขายังมั่นใจว่าจะฝ่าไปได้ มิหนำซ้ำยังเตรียมจัดทีเด็ดไว้เซอร์ไพรส์คิกบ็อกเซอร์ตัวพ่อของไทยอีกด้วย

"สิทธิชัย เตะได้หนักมาก จังหวะเข้าทำดี และมีปฏิกริยาตอบสนองที่ดีมาก มันจะเป็นไฟต์ที่ยากมากสำหรับผม แต่ผมคิดว่าผมเอาอยู่"

"คู่ต่อสู้ส่วนใหญ่ที่เคยศึกษาการต่อสู้เก่าๆ ของผมมักจะมองว่า ผมก็คงจะสู้แบบเดิม แต่ผมจะบอกว่าผมไม่ใช่ ไทฟุน เมื่อ 16 เดือนก่อนอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้ ผมอยู่ในองค์กรใหม่อย่าง ONE ผมต้องการพลังงานใหม่ๆ และยุทธวิธีใหม่ๆ"

"ผมจะทำให้เขา (สิทธิชัย) ประหลาดใจเมื่อเห็นว่าผมแข็งแกร่งแค่ไหน เขาอาจจะทำการบ้านจากการต่อสู้ที่ผ่านมาของผม แต่บอกเลยว่าผมเปลี่ยนแปลงไปมาก และผมคิดว่าเขาคงไม่พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนเวทีแน่นอน"