ไทยรัฐออนไลน์
ชื่อว่าแฟน MMA ชาวไทยต้องรู้จักนักสู้ดาวดังของรายการใหญ่ฝั่งอเมริกาอย่าง UFC แต่เมื่อพวกเขาหวังที่จะสืบสานเส้นทางแห่งความรุ่งเรืองโดยย้ายฐานแฟนคลับมาอยู่ฝั่งเอเชีย โดยซบอกเข้าสังกัด วัน แชมเปียนชิพ ที่ถือว่าเป็นองค์กรกีฬาการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปนี้ แต่มันกลับไม่เป็นดังที่คิด เมื่อนักสู้ดาวดังเหล่านั้นอาจไม่คาดคิดว่านักสู้จากแถบเอเชีย จะมีความแข็งแกร่งถึงขนาดที่ดับฝันของพวกเขาลงได้ และนี่คือเหล่านักสู้ดาวดังจากรายการใหญ่ฝั่งอเมริกาที่เมื่อย้ายสังกัดมาแล้ว กลับถูกกลบรัศมีความดังซะอย่างนั้น
ดิมิเทรียส จอห์นสัน
เริ่มต้นที่นักสู้ MMA ซึ่งได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และเก่งกาจที่สุดเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ "ดีเจ" ดิมิเทรียส จอห์นสัน อดีตแชมป์ UFC รุ่นฟลายเวต 12 สมัย ตัดสินใจย้ายสังกัดมาสู่ วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการเทรดแลกตัวกับ เบน แอสเครน ที่ย้ายไปยังศึก UFC แทนในปี 2562
ด้วยบารมีเก่า ดีเจ ได้สิทธิ์ลงแข่งขันศึก ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต และโชว์ผลงานยอดเยี่ยมจนคว้าแชมป์มาได้ หลังจากนั้นเขาหมายมั่นคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE รุ่นฟลายเวต อีกเส้น โดยในศึกใหญ่ “ONE on TNT I” ดีเจ ขึ้นท้าชิงกับแชมป์โลกชาวบราซิล “Mikinho” อาเดรียโน โมราเอส โดยกูรูแห่งวงการต่างเชื่อว่า ดีเจ จะสามารถโค่นบัลลังก์ อาเดรียโน ได้ แต่แล้วทั่วโลกก็ต้องช็อก เมื่อ อาเดรียโน เสยเข่าเข้าเต็มหน้า ดีเจ ยัดเยียดน็อกเอาต์ครั้งแรกในอาชีพชนิดหักปากกาเซียนทุกสำนัก
เอ็ดดี อัลวาเรซ
“ราชาใต้ดิน” เอ็ดดี อัลวาเรซ แชมป์โลก Bellator และ UFC ที่เดินทางข้ามฝั่งจากอเมริกาเหนือมายังเอเชียเพื่อล่าเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่ 3 สร้างประวัติศาสตร์การเป็นนักสู้ MMA คนแรกที่สามารถครองบัลลังก์แชมป์โลกจาก 3 องค์กรการต่อสู้ยักษ์ใหญ่ที่สุด
แต่ความฝันของเขาก็สลายเมื่อ เอ็ดดี เริ่มต้นไฟต์แรกบนเวที วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการถูกน็อกแบบหมดรูปตั้งแต่ยกแรก ก่อนจะกลับมาเรียกศรัทธาคืนได้ในไฟต์ที่สอง แบบเกือบเอาตัวไม่รอด แต่หลังจากนั้นเมื่อลงแข่งในศึกใหญ่ “ONE on TNT I” ที่มีการออกอากาศทางทีวีบ้านเกิดของเขาเอง เจ้าตัวกลับถูกปรับแพ้ฟาวล์เนื่องจากไปโจมตีที่ด้านหลังศีรษะของคู่แข่งขันมอลโดวา "ยูรี ลาปิคัส" โดยไม่ตั้งใจซึ่งภายหลังได้มีการพิจารณาให้เปลี่ยนคำตัดสินไฟต์นี้เป็น 'ไม่มีการตัดสิน' พร้อมกับได้รับโอกาสให้กลับมากู้หน้าในศึกนัด ONE on TNT นัดที่ 4 แต่กลายเป็นว่า เอ็ดดี ก็แพ้ให้กับความสดของนักสู้แดนกิมจิ “อ็อก เร ยุน” ที่เพิ่งเบียดเข้ามาอยู่ในแรงกิง ส่วนเขาเองก็ไม่สามารถที่จะจารึกชื่อของตัวเองในแรงกิง ONE รุ่นไลต์เวต ได้
เซจ นอร์ธคัท
นับว่าเป็นข่าวช็อกโลกเมื่อนักสู้หนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงที่สื่อหลายสำนักและแฟนกีฬามองว่าเป็นลูกรักของ UFC อย่าง "เซจ นอร์ธคัท" เลือกที่ย้ายมาซบอก วัน แชมเปียนชิพ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยในปี 2561 แต่ปรากฏว่าเส้นทางของแชมป์คาราเต้หนุ่มขวัญใจแฟนกีฬาชาวอเมริกันไม่เป็นดังหวัง เมื่อเขาเปิดตัวครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 และถูก “คอสโม อเล็กซานเดร” สอยหมัดเดียวจบเกมไวในเวลา 29 วินาทีของยกแรก ซ้ำยังทำให้กระดูกเบ้าหน้าแตกต้องพักรักษาตัวนานร่วมปี
นอกจากนี้ ยังมีนักสู้จาก UFC อีกหลายคนที่ยังไม่สามารถแจ้งเกิดใน วัน แชมเปียนชิพ ได้ คือ โยชิฮิโร อากิยามะ นักสู้รุ่นใหญ่ลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น วัย 44 ปี ที่ชนะ 1 แพ้ 1 ใน วัน แชมเปียนชิพ, ยูชิน โอกามิ จากแดนอาทิตย์อุทัยซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นนักสู้ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดตลอดกาล ถึงปัจจุบันมีสถิติแพ้มากกว่าชนะ คือแพ้ 2 ชนะ 1 ใน วัน แชมเปียนชิพ หรือแม้แต่ ไดจิ อาเบะ อดีตแชมป์ Pancrase ที่เคยผ่านศึก UFC ก็ยังไม่สามารถตีไข่แตกใน วัน แชมเปียนชิพ ได้เลย
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหน ก็อาจจะมีคนที่เก่งกว่าอยู่ที่ไหนสักแห่ง อยู่ที่เราได้ก้าวออกมาเผชิญหน้าพิสูจน์ฝีมือกันหรือไม่ และแม้ วัน แชมเปียนชิพ จะเป็นองค์กรการต่อสู้ที่ก่อตั้งยังไม่ครบ 10 ปี แต่ฝีมือนักกีฬา วัน แชมเปียนชิพ ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านักกีฬาในองค์กรการต่อสู้ที่ก่อตั้งมาก่อนหน้าเลย.