ไทยรัฐออนไลน์
ประธาน วัน แชมเปียนชิพไทย มองว่าการจัดศึกข้ามวงการระหว่าง "ONE" ปะทะ "UFC" มีโอกาสเป็นไปได้ในอนาคต เนื่องจากตอนนี้มีอุปสรรคหลายอย่าง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "ชาตรี ศิษย์ยอดธง" หัวเรือใหญ่ของ วัน แชมเปียนชิพ โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ถึง "ดาน่า ไวท์" บอสใหญ่ของ UFC ให้มาเจรจาถึงการจัดศึกสะเทือนวงการว่า "ผมพร้อมอ้าแขนรับสุดยอดการแข่งขันระหว่าง ONE vs UFC ใครอยากเห็นบ้าง?
ล่าสุด "ปลาย-จิติณัฐ อัษฎามงคล" ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ได้ให้โอกาสสัมภาษณ์พิเศษถึงหัวข้อดังกล่าว พูดถึงที่มาที่ไปของแผนการจัดศึกศิลปะการต่อสู้สะท้านวงการ ที่เปรียบดังเป็นการปะทะกันของ "East vs West" หรือ "เบอร์ 1 แห่งฝั่งตะวันออก" พบกับ "เบอร์ 1 จากฝั่งตะวันตก" นั่นเอง
จิติณัฐ เผยเรื่องนี้ว่า "อย่างที่เรารู้กันว่า UFC คือเจ้าแห่ง MMA ฝั่งโลกตะวันตก ก่อนหน้านี้พวกเขามอง ONE ว่าเป็นเพียงโปรโมเตอร์ที่เพิ่งเริ่มเข้ามาในวงการศิลปะการต่อสู้"
"แต่อันที่จริงแล้ว วัน แชมเปียนชิพ กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งทำให้เห็นได้ว่า วัน แชมเปียนชิพ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่รู้จักทั้งในเอเชีย และล่าสุดได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่ตลาดอเมริกา โดยได้ถ่ายทอดสดการแข่งขันไปเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมาแล้ว"
"เห็นได้ว่าองค์กร ONE เติบโตขึ้นในหลายมิติ นอกจากการจัดการแข่งขัน ยังรวมไปถึงการเติบโตทางธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า วัน แชมเปียนชิพ พร้อมก้าวขึ้นไปอีกระดับนึงแล้ว ทำให้ วัน แชมเปียนชิพ มองเห็นว่าถึงเวลาที่ ONE กับ UFC สองสุดยอดรายการ MMA ของฝั่งตะวันออกและตะวันตก ควรจัดการแข่งขันร่วมกัน"
"ช่วงที่ผ่านมา ทั้งสองค่ายมีการแลกเปลี่ยนนักสู้ข้ามฟากมาหลายครั้ง อย่าง ดิมิเทรียส จอห์นสัน ก็ย้ายจาก UFC มาอยู่กับเรา ส่วน เบน แอสเกรน ที่เคยเป็นแชมป์โลกฝั่ง ONE ก็ย้ายไป UFC"
"แต่อย่างไรก็ตาม การจัด ONE vs UFC นั้นยังมีอุปสรรคอยู่หลายประการ อาทิ สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีผลกระทบต่อการจัดการแข่งขัน, โลจิสติกส์ของการจัด, การวางโมเดลทางธุรกิจ รวมไปถึง คุณชาตรี และ ดาน่า ไวท์ ทั้งสองเองก็เป็นคู่แข่งทางธุรกิจ ซึ่งผมมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ในอนาคต แต่คงไม่ใช่ 1-2 ปีนี้อย่างแน่นอน จากเหตุผลข้างต้นที่กล่าวมา"
"ทั้งนี้ การจัดการแข่งขันไฟต์หยุดโลกระหว่าง ONE vs UFC ให้เกิดขึ้นได้นั้น ผมมองว่า ควรจะมีการสร้างกระแสให้เกิดขึ้นระยะหนึ่งก่อนเกิดการจัดการแข่งขันจริง"
"บิ๊กปลาย" ยังกล่าวถึงความสำเร็จของ วัน แชมเปียนชิพ ในช่วงครึ่งปี 2021 ที่ผ่านมาด้วยว่า "ในครึ่งปีที่ผ่านมาของ วัน แชมเปียนชิพ ถึงแม้จะประสบสถานการณ์โควิด-19 แต่ วัน แชมเปียนชิพ ยังคงสามารถนำเสนอคอนเทนต์ได้"
"ไม่เพียงแต่จัดการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง อีสปอร์ต หรือแตกไลน์เปิดตัวคอนเทนต์บันเทิง อาทิ รายการเรียลลิตี ฯลฯ เพื่อให้คนทั่วโลกยังคงเข้าถึง วัน แชมเปียนชิพ อยู่ ซึ่งเป็นผลทำให้ วัน แชมเปียนชิพ ยังคงมีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซบเซาลงไป กล่าวได้ว่ายังคงเป็นปีที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังคงทำให้ วัน แชมเปียนชิพ เป็นบริษัทผลิตสื่อระดับท็อปของโลกอยู่"
"สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณแฟนๆ ที่ชื่นชอบกีฬาศิลปะการต่อสู้ ทั้ง MMA, มวยไทย, คิกบ็อกซึ่ง ขอบคุณที่สนับสนุน วัน แชมเปียนชิพ ได้มีโอกาสนำฮีโร่ทั้งของไทยและต่างชาติมานำเสนอ ซึ่งในอนาคต วัน แชมเปียนชิพ จะมีโปรเจกต์อีกมากมายมาให้แฟนๆ ได้ชื่นชมกัน ขอให้แฟนๆ อยู่คู่กับเราไปนานๆ ครับ" จิติณัฐ กล่าวทิ้งท้าย