ไทยรัฐออนไลน์
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม, กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ, สมาคมครูมวยไทย กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า MBK Center, โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส และ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ แถลงข่าวมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทยสู่นานาชาติครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 8-17 มี.ค.62 บริเวณอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ...
วันที่ 12 ก.พ. 62 ที่โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ มีการแถลงข่าวงานมหกรรมศิลปะการต่อสู้เอกลักษณ์ไทย ครั้งที่ 4 วันที่ 8-17 มีนาคม 2562 โดย หม่อมหลวงวันชัย นวรัตน์ ประธานจัดการแข่งขันกิตติมศักดิ์ สมาคมครูมวยไทย, นายชินวุธ ศิริสัมพันธ์ นายกสมาคมครูมวยไทย ประธานจัดงาน พร้อมด้วย นางมงคลทิพย์ รุ่งงามฤกษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและชุมชน กองกิจการกรมส่งเสริมวัฒนธรรม, จิรกานต์ พรโสภิต นักการทูตชำนาญการ กองการทูตวัฒนธรรม กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และ มร.สเตฟาน ไฮน์ทซ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส พร้อมด้วยคณะกรรมการและที่ปรึกษาโครงการ
จากความสำเร็จของการจัดงาน มหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทยสู่นานาชาติ เมื่อครั้งที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้าร่วมในกิจกรรมมากกว่า 1,200 คน หรือมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้เกิดงานมหกรรมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเอกลักษณ์ไทยสู่นานาชาติ ครั้งที่ 4 โดยงานมหกรรมนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-17 มีนาคม 2562 บริเวณหน้าอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อเป็นการส่งเสริมเผยแพร่และพัฒนาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวสู่นานาชาติ ให้เป็นที่ยอมรับและเป็นการอนุรักษ์ไว้ ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ พร้อมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทย และสร้างรายได้สู่ประเทศไทย รวมถึงเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลเชิงยุทธศาสตร์ ที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกีฬาในอนาคต ทางสมาคมตั้งเป้าหมายว่าจะต้องทำให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางในการจัดงานมหกรรมศิลปะการต่อสู้ของโลกให้ได้
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ มีการประกวดคีตะมวยไทย, แม่ไม้มวยไทย, มวยไทย, มวยโบราณ, ดาบไทย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่และพัฒนาศิลปะการต่อสู้ อีกประการหนึ่ง ทางสมาคมครูมวยไทย จะนำนักกีฬาและผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดเข้าร่วมในพิธีไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 15 บริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้นักกีฬาไทยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของพิธีไหว้ครูรวมถึงการตระหนักว่าครั้งหนึ่งในชีวิตของการเรียนมวยไทยต้องมาร่วมพิธีไหว้ครูที่ประเทศไทย