มะระหวาน
ไม่มีพลิกโผสำหรับคู่ชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เป็นการพบกันของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก พบกับ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ทีมแกร่งจากกัลโช ซีรีเอ อิตาลี โดยเกมนี้จะฟาดแข้งกันในวันที่ 10 มิถุนายน 2023 ที่อตาเติร์ก สเตเดียม ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี
เมื่อมองจากฟอร์มล่าสุดแล้วละก็ แมนฯ ซิตี้ น่าจะไม่พลาดที่จะคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาครองอย่างแน่นอน เพราะเมื่อเทียบกันแล้วทาง “เรือใบสีฟ้า” ยังเหนือกว่าเยอะเลยทีเดียว
ยิ่งได้ดูเกมที่แมนฯ ซิตี้ ไล่ถล่ม เรอัล มาดริด ไปยับเยิน 4-0 ยิ่งมองไม่เห็นเลยว่าทาง “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน จะเอาวิธีไหนมาหยุดคู่หูแนวรุกอย่างเควิน เดอ บรอยน์ กับเออร์ลิง ฮาแลนด์ ได้
แถมแข้ง “เรือใบสีฟ้า” ยังมีประสบการณ์ในการพ่ายแพ้รอบชิงชนะเลิศเมื่อ 3 ปีที่แล้วทำให้ในเกมรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเน้นเป็นพิเศษ ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกได้เลยว่ามีโอกาสที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะคว้าแชมป์ไปครองแน่นอน
หลังจากที่แมนฯ ซิตี้ เข้าชิงชนะเลิศทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ก้าวมามีลุ้น 3 แชมป์ หรือ “ทริปเปิลแชมป์” อย่างเต็มตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
ซึ่งในตอนนี้มีทีมบอลจากอังกฤษเพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้นที่ทำทริปเปิลแชมป์มาครองได้นั่นก็คือ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยทำเอาไว้ในฤดูกาล 1998-1999 หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครเคยทำได้อีก
มี “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เคยทำได้ใกล้เคียงคือ “ทริปเปิลแชมป์บอลถ้วย” เป็นการคว้าแชมป์บอลถ้วยทั้งหมดได้แก่ ลีก คัพ, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า คัพ เคยทำได้ในฤดูกาล 2000-2001
ทำให้ตอนนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะคว้าทริปเปิลแชมป์มาครองเป็นทีมที่สองในเกาะอังกฤษ ต่อจากคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สถานการณ์ในการลุ้นทริปเปิลแชมป์ในตอนนี้ของ “เรือใบสีฟ้า” ได้แชมป์แรกไปครองแล้วหลังจากที่อาร์เซนอลสะดุดแพ้นอตติงแฮม ฟอเรสต์ 0-1 ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้แมนฯซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองทันที โดยไม่ต้องสนใจผลในเกมวันอาทิตย์ที่พบกับเชลซีอีกแล้ว
จากการคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี โดยครั้งล่าสุดทีมที่คว้าแชมป์ลีกได้ 3 สมัยติดก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยทำเอาไว้ในฤดูกาล 2006-2009
นอกจากนั้นยังเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ใน 6 ปีล่าสุดอีกด้วย ถือว่าเป็นยุคของ “เรือใบสีฟ้า” อย่างแท้จริง
มาดูถ้วยใบที่สองก็คือ เอฟเอ คัพ แมนฯ ซิตี้ จะต้องดวลกับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม “แมนเชสเตอร์ดาร์บี้” เวอร์ชันฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
เอาเข้าจริงถ้าดูจากฟอร์มการเล่นล่าสุด แมนฯ ซิตี้ ก็เหนือกว่าเหมือนเดิม แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มักจะทำได้ดียามที่เล่นในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ผลงานการพบกันในฤดูกาลต่างฝ่ายต่างชนะในบ้านของตัวเอง ส่วนสนามกลางในนัดนี้ก็ต้องลุ้นกันว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน
ส่วนถ้วยใบสุดท้ายในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่า “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน อยู่พอสมควรน่าจะพลาดยาก
เมื่อเทียบจากทั้ง 2 ถ้วยที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเจอกับคู่ต่อสู้เพื่อกรุยทางไปสู่ทริปเปิลแชมป์นั้น
มี “ปิศาจแดง” นี่แหละที่เป็นตัวอันตรายมากที่สุดที่จะทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ไปไม่ถึงทริปเปิลแชมป์ เพราะเชื่อว่าแข้ง “ผี” จะใส่เกินร้อยแน่นอน
เพราะการเห็นคู่ปรับร่วมเมืองทำสถิติขึ้นมาทาบประวัติศาสตร์สโมสรที่เคยทำเอาไว้เป็นหนึ่งเดียวนั้นมันยากจะยอมรับได้!!
มะระหวาน