หน้าแรกแกลเลอรี่

เชลซี ทำได้ เฉือน แมนฯ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 2

ไทยรัฐออนไลน์

30 พ.ค. 2564 03:57 น.

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เฉือนเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองเป็นสมัยที่ 2

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2020-21 รอบชิงชนะเลิศ ประจำวันเสาร์ที่ 29 พ.ค. 64 ที่สนามเอสตาดิโอ โด ดราเกา, ปอร์โต ประเทศโปรตุเกส (สนามกลาง) "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี 

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 8 แมนฯ ซิตี้ ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง พยายามจะตอกส้นยิงในเขตโทษ แต่ เอดูอาร์ด เมนดี นายด่านของเชลซี เซฟออกไปได้

จากนั้นนาทีที่ 10 โอกาสของเชลซี เมื่อ ไค ฮาเวิร์ตซ์ เปิดบอลเรียดจากฝั่งซ้ายเข้ากลางเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ แต่ดันยิงแป้กอย่างน่าเสียดาย

ถัดมา 4 นาที เชลซีได้ลุ้นอีกแล้ว เมสัน เมาท์ จ่ายบอลให้ ติโม แวร์เนอร์ ยิงในเขตโทษ แต่บอลตรงตัว เอแดร์สัน โกลของแมนฯ ซิตี้

นาทีที่ 15 เชลซีได้ลุ้นต่อเนื่อง เมสัน เมาท์ จ่ายบอลให้ ติโม แวร์เนอร์ กระชากเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดเน้นๆ บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย

ถึงนาทีที่ 28 แมนฯ ซิตี้ เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ผ่านบอลให้ ฟิล โฟเดน ได้ยิงจ่อๆ แต่ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ปรี่มาบล็อกไว้ได้ทัน

แต่ทว่านาทีที่ 42 กลายเป็น เชลซี ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ จ่ายบอลทะลุให้ ไค ฮาเวิร์ตซ์ หลุดเดี่ยวก่อนแตะหลบ เอแดร์สัน แล้วยิงเข้าไปง่ายๆ

จบครึ่งแรก เชลซี นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ พยายามบุกใส่ แต่นาทีที่ 72 กลายเป็น เชลซี ที่ได้ลุ้นสกอร์เพิ่ม จากจังหวะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ คริสเตียน พูลิซิช ยิงหลุดเสาไกลไปนิดเดียว

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เชลซี ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้: เอแดร์สัน (GK), ไคล์ วอลเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิลโฟเดน

เชลซี: เอดูอาร์ด เมนดี (GK), รีซ เจมส์, ติอาโก ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา, จอร์จินโญ, เอ็นโกโล ก็องเต, เบน ชิลเวลล์, ไค ฮาเวิร์ตซ์, เมสัน เมาท์ และ ติโม แวร์เนอร์