ไทยรัฐออนไลน์
ลมเปลี่ยนทิศ! วิเคราะห์ 2 สาเหตุ "อโมริม" มาแรงแซง "ชาบี" จ่อเป็นกุนซือแมนยูฯ คนใหม่แทน "เทน ฮาก"
วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ริชาร์ด มาร์ติน ผู้สื่อข่าวของ โกล เว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดังรายงานล่าสุด โดยเผยสาเหตุที่ ชาบี เอร์นานเดซ อดีตกุนซือบาร์เซโลนา มีโอกาสน้อยลงในการเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทน เอริก เทน ฮาก ที่โดนปลด
ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า ชาบี เอร์นานเดซ ได้พูดคุยกับ แมนยูฯ มาแล้วถึง 2 ครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และล่าสุด "ปิศาจแดง" ยังส่ง โอมาร์ เบอร์ราดา ซีอีโอของสโมสรไปเจรจาถึงประเทศสเปนมาแล้วด้วย
อย่างไรก็ดี ริชาร์ด มาร์ติน ระบุว่า ชาบี เอร์นานเดซ ยังยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีแผนรับงานใดๆ จนกว่าจะถึงฤดูกาลหน้า และตั้งใจพักงานต่อ หลังแยกทางกับ บาร์เซโลนา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมถึงต้องเคลียร์กับครอบครัวด้วย หากย้ายมาทำงานในอังกฤษ
ทำให้ แมนยูฯ ต้องรอจนถึงช่วงซัมเมอร์ ปี 2025 หากต้องการ ชาบี มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ อย่างไรก็ตาม "ปิศาจแดง" ไม่ต้องการรอนานมาก และกำลังสรรหากุนซือถาวรในระหว่างที่ให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย มือขวาของ เอริก เทน ฮาก ทำหน้าที่ชั่วคราว
ส่วนอีก 1 สาเหตุที่ แมนยูฯ เปลี่ยนเป้าหมายจาก ชาบี เอร์นานเดซ มาเป็น รูเบน อโมริม เนื่องจาก โอมาร์ เบอร์ราดา ซีอีโอของสโมสร อ่านเกมว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเก่าที่เขาเคยร่วมงานด้วย ก็สนใจกุนซือหนุ่มของ สปอร์ติง ลิสบอน มาเป็นตัวแทน เป๊ป กวาร์ดิโอลา กรณีไม่ต่อสัญญาเช่นกัน
ดังนั้น แมนยูฯ จึงรีบปล่อยมือจาก ชาบี เอร์นานเดซ แล้วเบนเป้าหมายมาหา รูเบน อโมริม ที่เป็น 1 ในลิสต์รายชื่อทันที ก่อนเดินหน้าเจรจาแบบเต็มตัว หลังประกาศปลด เอริก เทน ฮาก ที่พาทีมแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนร่วงมาอยู่อันดับ 14 พรีเมียร์ลีก
ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดมีความเป็นไปได้สูงว่า แมนยูฯ จะได้ รูเบน อโมริม มาเป็นแม่ทัพคนใหม่แทน เอริก เทน ฮาก หลังจากการเจรจาเป็นไปด้วยดี โดยกุนซือหนุ่มวัย 39 ปี ตอบรับแผนงาน, วิสัยทัศน์ รวมถึงรายละเอียดเงื่อนไขค่าจ้างในสัญญาแล้ว
นอกจากนี้ สปอร์ติง ลิสบอน ก็พร้อมเปิดทางให้ รูเบน อโมริม ไปหาความท้าทายใหม่แล้ว เมื่อเตรียมดัน ชูเอา เปเรรา โค้ชทีมชุดบี (ทีมสำรอง) ขึ้นมาแทน โดยตอนนี้ แมนยูฯ เหลือแค่ตกลงค่าฉีกสัญญาให้ได้เท่านั้น ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ 10 ล้านยูโร (370 ล้านบาท)
สำหรับ รูเบน อโมริม ถือเป็นกุนซือรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตา หลังย้ายจาก บรากา มาอยู่ สปอร์ติง ลิสบอน เมื่อปี 2020 พาทีมคว้าถ้วยแชมป์ไปแล้ว 5 ใบ ประกอบด้วย แชมป์ลีกสูงสุดโปรตุเกส 2 สมัย, แชมป์ลีกคัพ 2 สมัย และ โปรตุกีส ซูเปอร์คัพ 1 สมัย