มะระหวาน
ไม่มีพลิกโผเลยสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดสนามที่ผ่านมา บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ที่มีลุ้นแชมป์ลีกต่างตบเท้าคว้าชัยชนะได้ทั้งหมด แบบไม่มีใครตกขบวนเลยแม้แต่ทีมเดียว
เริ่มต้นจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดที่เจองานยากอย่าง “สิงห์บลู” เชลซี ทีมดังจากกรุงลอนดอน ที่ขนนักเตะมูลค่ารวมทั้งทีมแล้วเกือบพันล้านปอนด์มาลงสู้ แต่สุดท้าย เป็น “เรือใบ” ที่เอาชนะไปได้ไม่ยาก 2-0
แม้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ชาวกระทิง จะได้ผู้เล่นมาเสริมทัพอย่างซาวินโญ ปีกชาวแซมบ้า เพียงแค่รายเดียว แต่ขุมกำลังที่มีอยู่นั้นไม่ว่าจะเป็นเควิน เดอ บรอยน์, เออร์ลิง ฮาแลนด์, แบร์นาร์โด ซิลวา, โรดรี, ฟิล โฟเดน, แจ็ค กรีลิช, รูเบน ดิอาส, โจสโก กวาร์ดิโอล และแอนเดอร์สัน ก็เพียงพอต่อการคว้าแชมป์สมัย 5 แล้ว
แถมจากฟอร์มการเล่นในเกมเจอกับ เชลซีนั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าผู้เล่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังกระหายในชัยชนะอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะกวาดแชมป์ครบทุกรายการแล้วก็ตาม แถมทั้งหมด ยิ่งน่ากลัวเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะเล่นด้วยกันมานานแค่มองตาก็รู้แล้วว่าจะต้องไปรับบอลตรงไหน
เมื่อจบเกมแรกก็เลยไม่แปลกใจว่า “เรือใบสีฟ้า” ทำไมถึงเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาลนี้เหมือนเดิม
ส่วน “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล รองแชมป์ 2 สมัยติดก็ออกสตาร์ตได้ดีไม่แพ้กันเปิดบ้านไล่อัด “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ไป 2-0 เป็นการออกสตาร์ตได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับเป็นคู่อริเบอร์ 1 ในการแย่งแชมป์มาจาก “เรือใบสีฟ้า”
มิเกล อาร์เตตา นายใหญ่ชาวกระทิงได้เสริม ทัพ เอาริคคาร์โด คาลาฟิออรี ปราการหลังทีมชาติอิตาลีเข้ามาเสริมแนวรับให้แน่นปึ้กกว่าเดิมทำให้หมดห่วงมีตัวตายตัวแทนระดับเดียวกันมาทดแทน
ส่วนแนวรุกทั้ง บูกาโย ซากา, มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, เลอันโดร ทรอสซาร์ ต่างก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมต่อไป แม้ว่าก่อนหน้านี้หลายฝ่ายจะกังวลเรื่องตัวจบสกอร์ของ “ปืนใหญ่” แต่ไค ฮาเวิร์ตซ์ แนวรุกทีมชาติเยอรมนี ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเหมาะจะก้าวขึ้นมาเป็นเพชฌฆาตเบอร์ 1 ของทีม
ขณะที่เต็ง 3 เป็น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่แม้ว่ายังไม่มีนักเตะเสริมทัพแม้แต่รายเดียว แต่ขุมกำลังที่มีอยู่นั้นก็แข็งแกร่งไม่แพ้ทั้ง 2 ทีมที่กล่าวไป แถมยังได้เปรียบตรงที่เล่นกันมานานทำให้ทีมเวิร์กนั้นเอาไปเต็ม 10 เลย
ส่วนปัญหาในการจบสกอร์นั้นที่หลายฝ่ายค่อนขอดโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าทีมชาติอียิปต์ ว่าเริ่มแก่ไปแล้วอาจจะใช้การไม่ได้ แต่ดาวยิงวัย 32 ปี ก็แสดงให้เห็นในเกมนัดเปิดสนามด้วยการยิง 1 จ่าย 1 พา “หงส์แดง” เอาชนะ “ม้าขาว” อิปสวิช ไป 2-0 ว่าตัวเขายัง “ไฟแรง” ไม่มีเปลี่ยน
ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าคงยากจะลุ้นแชมป์ แต่เอาเข้าจริงๆ ขุมกำลังของ “ปิศาจแดง” ก็แข็งแกร่งไม่แพ้บรรดาทีมต่างๆที่แย่งแชมป์เช่นกัน ยิ่งได้ โจซัว เซิร์กซี, มาไธส์ เดอ ลิกต์ และนุสแซร์ มาซราอุย เข้ามาเสริมทัพ ก็ถือว่าเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยม
และเชื่อว่าในซีซันใหม่นี้ถ้าเอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ ไม่เจออาการบาดเจ็บแบบซีซันที่แล้วก็มีลุ้นที่จะสร้างความฮือฮาและอาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกก็เป็นได้
แต่สุดท้ายแค่เห็นเกมแรกของบรรดาทีมลุ้นแชมป์ลีกลงฟาดแข้งแล้วบอกได้เลยว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกคงไม่แคล้วทีมเดิมแน่นอน.
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม