ไทยรัฐออนไลน์
ถึงเวลาทวงความยิ่งใหญ่ แมนยูฯ แต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ ผลงานไม่ธรรมดา เบื้องหลังพา แมนฯ ซิตี้ ผงาดสู่ยอดทีมยุคนี้
วันที่ 21 มกราคม 2567 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมชั้นนำพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศแต่งตั้ง โอมาร์ เบอร์ราดา เป็นซีอีโอคนใหม่ของสโมสรแทน ริชาร์ด อาร์โนลด์ ที่ประกาศอำลาตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยจะเริ่มงานในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่ง "ปิศาจแดง" ได้มอบหมายให้ แพทริค สจวร์ต หัวหน้าฝ่ายกฎหมายเข้ามาทำหน้าที่แทน อาร์โนลด์ เป็นการชั่วคราวก่อน
แมนยูฯ แถลงถึงการแต่งตั้ง โอมาร์ เบอร์ราดา เข้ามาเป็นซีอีโอคนใหม่ว่า "มันเป็นความทะเยอทะยานของเราที่จะสร้าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นมาใหม่ในฐานะสโมสรที่พร้อมจะคว้าแชมป์ สโมสรมุ่งมั่นที่จะนำฟุตบอลและผลงานกลับมาสู่สนาม นั่นเป็นหัวใจของทุกสิ่งที่เราทำ การแต่งตั้ง โอมาร์ ถือเป็นก้าวแรกของการเดินทางครั้งนี้"
สำหรับ โอมาร์ เบอร์ราดา วัย 46 ปี ถือเป็นบุคลากรรายแรกที่ได้รับการแต่งตั้งโดย เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ผู้ถือหุ้นรายใหม่ 25 เปอร์เซ็นต์ของ แมนยูฯ ที่เข้ามาดูแลด้านการบริหารฟุตบอลของสโมสร ซึ่งเจ้าตัวตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองที่กำลังครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษยุคปัจจุบัน
โอมาร์ เบอร์ราดา เป็นชาวโมร็อกโกที่เกิดในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เคยศึกษาสาขาวิศวกรรมผ่านระบบการศึกษาของอเมริกาในโมร็อกโก ก่อนลาออกมาเรียนในสาขาบริหารธุรกิจและเดินทางมาที่ยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนจาก บาร์เซโลนา ทั้งด้านการศึกษาและเรียนภาษาสเปน รวมถึงมีโอกาสได้ดูฟุตบอลด้วย
จากนั้น โอมาร์ เบอร์ราดา มีโอกาสฝึกงานที่ ฮอนด้า ก่อนได้ร่วมงานกับ ทิสคาลี (Tiscali) บริษัทโทรคมนาคมของอิตาลีในช่วงเริ่มต้นที่อินเทอร์เน็ตกำลังเป็นที่นิยม ก่อนที่เขาจะกลายเป็นที่ต้องการตัวจากหลายองค์กร แต่สุดท้ายก็ได้มาร่วมงานกับ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ลา ลีกา สเปน ที่กำลังขยายแผนกการตลาดในปี 2004 โดยระบุว่าต้องการทักษะเฉพาะของเขาซึ่งพูดได้ถึง 6 ภาษา
ด้วยความสามารถทำให้ โอมาร์ เบอร์ราดา ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายสปอนเซอร์ของ บาร์เซโลนา โดยเขาได้รับมอบหมายให้เจรจาข้อตกลงกับแบรนด์ดังและบริษัทชั้นนำระดับโลก ก่อนย้ายมา แมนฯ ซิตี้ ในปี 2011 หลังอยู่กับ "เจ้าบุญทุ่ม" 8 ปี โดยเป็นทีมงานบริหารชุดแรกที่ย้ายจาก บาร์ซา มาร่วมงานกับทีมเศรษฐีใหม่ของพรีเมียร์ลีก พร้อมกับ เฟร์ราน โซเรียโน ที่เข้ามาเป็นซีอีโอ ก่อนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะมาเป็นผู้จัดการทีมในปี 2016
ช่วงแรก เบอร์ราร์ดา ร่วมงานกับ แมนฯ ซิตี้ ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ ต่อมาเขาได้เป็นรองประธานอาวุโส และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ ซิตี้ ฟุตบอล มาร์เก็ตติ้ง ดูแลการขายหุ้นส่วน การบริหารหุ้นส่วน การค้าปลีกและการออกใบอนุญาต และการทัวร์ของสโมสร ซึ่งรวมถึงการสร้างแผนกการตลาดของกลุ่มที่เป็นเจ้าของ แมนฯ ซิตี้ ด้วย
ปี 2016 เบอร์ราดา กลายเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ แมนฯ ซิตี้ ก่อนที่ 4 ปีต่อมาจะเข้ามารับหน้าที่เดียวกันในการดำเนินงานด้านฟุตบอลทั้งหมดของ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป กลุ่มทุนที่เป็นเจ้าของ แมนฯ ซิตี้ และสโมสรต่างๆ ในเครือ รวมทั้งหมด 11 สโมสร ใน 5 ทวีป
บทบาทของ เบอร์ราดา นับว่ามีความสำคัญต่อการสร้างความยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ ในเบื้องหลัง โดยมีรายงานว่าเขาเป็นคนจัดการแผนกที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายย้ายทีมของผู้เล่น, การวิเคราะห์ข้อมูล, วิทยาศาสตร์การกีฬา และการส่งแมวมองไปติดตามดูฟอร์มของนักเตะ
แหล่งข่าววงในระบุว่า เบอร์ราดา ทำงานใกล้ชิดกับ ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการฟุตบอล แมนฯ ซิตี้ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบรรลุข้อตกลงการดึงตัว เออร์ลิง ฮาลันด์ ยอดดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 63 ล้านปอนด์ (2,835 ล้านบาท) เมื่อปี 2022 และยังได้รับเครดิตจากความสำเร็จของอะคาเดมีของ "เรือใบสีฟ้า" ที่ปั้นดาวรุ่งขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หลายราย โดยเฉพาะการขายให้กับสโมสรอื่นๆ อีกด้วย.