มะระหวาน
ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะสงสัยเรื่องการย้ายทีมของโคล พาลเมอร์ กองกลางตัวรุกชาวผู้ดี ที่ตัดสินใจย้ายหนีจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นให้กับ “สิงห์บลู” เชลซี ทีมดังจากกรุงลอนดอนด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,882 ล้านบาท)
เพราะพาลเมอร์อยู่ในทีมที่ดีอยู่แล้วอย่าง แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลกและการันตีตำแหน่งแชมป์อีกหลายแชมป์แน่นอนหลังจากนี้ ทำไมถึงเลือกย้ายออกจากทีม
ซึ่งเรื่องนี้ก็เดาไม่ยากเพราะเป็นคำตอบที่บรรดาแข้งหลายๆ คนใช้อยู่ตลอดและเป็นสิ่งที่นักเตะทุกคนต้องการนั่นก็คือ “โอกาสลงสนาม” ทำให้ตัดสินใจย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ
พาลเมอร์เติบโตมาจากอะคาเดมีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนโชว์ฝีเท้าได้ค่อนข้างยอดเยี่ยมและโดดเด่นมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นจนถูกเรียกมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2021-2022 โดยฤดูกาลล่าสุดแข้งวัย 21 ปี ได้ก้าวขึ้นมาเต็มตัวโดยลงเล่นไปทั้งหมด 25 นัด ยิงได้ 1 ประตู และเป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าทริปเปิลแชมป์มาครอง
แต่ในฤดูกาลนี้มิดฟิลด์วัย 21 ปี ได้ลงเล่นไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่า พาลเมอร์ จะต้องแย่งชิงกับบรรดาแข้งระดับท็อปของโลกอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์, ฮูเลียน อัลวาเรซ, แบร์นาร์โด ซิลวา, ฟิล โฟเดน และแจ็ค กรีลิช จึงทำให้โอกาสมีไม่มากนัก
จนทางเชลซีได้ติดต่อมาในช่วงโค้งสุดท้ายว่าต้องการได้ตัวของพาลเมอร์ไปร่วมก๊วน แถม เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ยังได้การันตีตำแหน่งตัวจริงอีกด้วย ทำให้เจ้าตัวอยากย้ายทันทีแบบไม่ต้องคิด
แต่ “เรือใบสีฟ้า” ไม่ยอม จนทำให้แข้งวัย 21 ปี เดินไปคุยกับเป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ชาวกระทิงดุ ทันที พร้อมบอกว่าเขาขอย้ายเพราะต้องการลงเล่นและเป๊ป ก็ตอบเซย์เยสเมื่อไม่มีใจก็เชิญย้ายไม่มีรั้งอยู่แล้ว
เมื่อย้ายมาปุ๊บ พาลเมอร์ก็ได้ปลดเปลื้องพรสวรรค์ของตัวเองที่โดนเก็บกักมานานออกมาทั้งหมด สร้างความตื่นตะลึงให้กับบรรดาหลายๆ คนได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอลและการพาบอลไปกับตัวที่คุกคามแนวรับคู่ต่อสู้ได้ตลอด แถมยังมีจุดเด่นในการดวลหนึ่งต่อหนึ่งอีกด้วย และมีรูปร่างที่สูงถึง 189 ซม. เล่นลูกกลางอากาศได้ดีอีกด้วย
นอกจากฟอร์มการเล่นแล้ว เชลซียังได้ประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยมของพาลเมอร์มาด้วย เพราะแข้งวัย 21 ปี ผ่านสิ่งต่างๆ มามากมายไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งไม่ได้หาได้ง่ายๆ
ขณะเดียวกันเจ้าตัวยังมาด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งและไม่กลัวใคร ดูได้จากเกมที่เชลซีเสมอกับอาร์เซนอล 2-2 มีจังหวะหนึ่ง “สิงห์บลู” ได้ลูกจุดโทษ พาลเมอร์เป็นคนรับหน้าที่ แต่พี่ใหญ่อย่างราฮีม สเตอร์ลิง เข้ามาขอยิง ปกติถ้าเด็กใหม่เจอรุ่นพี่ขอก็จะหลีกทางให้ แต่เจ้าตัวไม่ยอมจนได้ยิงเองและซัดเข้าไปแบบไม่มีปัญหา
และในนัดล่าสุดก็ตอกย้ำว่าจิตใจของพาลเมอร์ แกร่งแค่ไหนเมื่อเจ้าตัวรับหน้าที่ยิงจุดโทษให้ “สิงห์บลู” ตามตีเสมอแมนฯ ซิตี้ ทีมเก่า ในช่วงทดเจ็บไปสุดมัน 4-4 ถ้าเป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันก็ต้องสั่นบ้างแหละเพราะกดดันสุดๆ แต่กับแข้งวัย 21 ปีรายนี้นิ่งสุดๆ
ทำให้ตอนนี้เจ้าตัวลงเล่นไปทั้งหมด 11 นัด ยิงไป 4 ประตู และทำ 5 แอสซิสต์ให้กับ “สิงห์บลู” ไปแล้ว และยังเป็นหนึ่งในคีย์แมนหลักที่ทำให้เชลซี กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง
จากฟอร์มอันโดดเด่นทำให้พาลเมอร์ได้ถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ได้เรียกไปติดทัพ “สิงโตคำราม” ลงทำศึกยูโร 2024 รอบคัดเลือกทันที และเชื่อว่าพาลเมอร์น่าจะได้ประเดิมทีมชาติค่อนข้างจะแน่นอน เพราะ “ทรี ไลออนส์” เข้ารอบไปแล้วจึงน่าจะให้โอกาสบรรดาแข้งใหม่ได้โชว์ฝีเท้าอย่างแน่นอน
แม้ว่าหลายคนจะมองว่าตัวเขาพลาดที่เลือกเดินออกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มา แต่มาจนวันนี้ พาลเมอร์ แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้พลาดที่เดินออกมา
แต่กลายเป็น “เรือใบสีฟ้า” ที่พลาดไม่ให้ โอกาสเขาได้โชว์ฝีเท้าที่แท้จริงต่างหาก!!
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม