มะระหวาน
ยังคงไม่ฟื้นสำหรับ “สิงห์บลู” เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ที่ปัจจุบันฟอร์มร่วงกราวรูดจนมารั้งอันดับ 10 อยู่ในตอนนี้ โอกาสที่จะลุ้นโควตาไปลุยบอลยุโรปนั้นบอกตามตรงว่าแทบจะหมดหวัง
แม้ว่าตามทฤษฎีจะมีแต้มให้เก็บอีกเยอะแยะและมีโอกาสเก็บแต้มไปลุยบอลยุโรปได้ แต่ถ้าวัดจากฟอร์มในปัจจุบันนั้นบอกได้เลยว่ายากมากๆ
สถานการณ์ของเชลซีในตอนนี้ถือว่าแย่แบบสุดๆ สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาแล้ว 6 นัดติดรวมทุกรายการ แต่หากย้อนไปอีกนิด 11 นัดล่าสุดรวมทุกรายการ “สิงห์บลู” เก็บชัยชนะได้แค่นัดเดียวเท่านั้น!!
ด้วยฟอร์มย่ำแย่ขนาดนี้คนที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุดก็คือ แกรม พอตเตอร์ กุนซือชาวผู้ดี ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนกันยายนปีที่แล้วแทนที่ของโธมัส ทูเคิล กุนซือชาวเยอรมัน ที่โดนปลดออกจากตำแหน่งไป
ว่ากันตามตรงฝีมือของพอตเตอร์ไม่ธรรมดาเขาปั้น “นกนางนวล” ไบรท์ตัน ให้โลดแล่นในโซนกลางตาราง พร้อมทั้งสร้างปัญหาให้กับทีมหัวแถวของตารางอยู่บ่อยครั้งจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในกุนซือรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง
ขณะเดียวกันการที่พอตเตอร์เข้ามารับตำแหน่งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก เพราะมีทุกอย่างครบครัน อุปกรณ์ดีกว่า ขุมกำลังมีให้เลือกใช้มากมาย แถมแต่ละคนเป็นนักเตะระดับท็อป
แค่รายชื่อในการเสริมทัพซีซันนี้ก็หนาวแล้วไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง, คาลิดู คูลิบาลี, เวสเลย์ โฟฟานา, เดนนิส ซากาเรีย, ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง, เบอนัวต์ บาเดียซีล, ชูเอา เฟลิกซ์, มิคาลโล มูดริก, ดาวิด โฟฟานา, โนนี มาดูเก และ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ
บวกกับนักเตะระดับท็อปที่มีอยู่ในทีมไม่ว่าจะเป็น ติอาโก ซิลวา, คริสเตียน พูลิซิช, เมสัน เมาท์, ฮาคิม ซิเยค, มัตเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล ก็องเต และไค ฮาเวิร์ตซ์ บอกตรงๆ เลยว่าควรจะเป็น “สิงห์บลู” ไล่บี้กับอาร์เซนอล และแมนฯ ซิตี้ ในการแย่งแชมป์ลีกแล้ว หรืออย่างน้อยก็ลุ้นโควตา ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย แม้แต่ถ้วยใบเล็กสุดอย่างยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก ยังเหนื่อยเลย!!
พอตเตอร์ไม่ใช่คนที่ไม่มีฝีมือ จังหวะการแก้เกมของเขาหรือการวางหมากยังค่อนข้างโอเคอยู่ แต่ปัญหาของเชลซีที่กุนซือวัย 47 ปีต้องเจอคือ นักเตะที่มีให้เลือกมากเกินไป แถมแต่ละคนก็เป็นแข้งระดับซุปเปอร์สตาร์ หรือย้ายมาด้วยค่าตัวสุดแพง ทุกคนอยากลงสนามแต่ตำแหน่งมีแค่ 11 ตัวจริงเท่านั้น มันจึงยากที่จะทำให้ทุกคนพอใจได้
นอกจากนั้นอีกหนึ่งปัญหาคือการเสริมทัพไม่ตรงจุด ปัญหาของเชลซีคือกองหน้าตัวเป้าในการจบสกอร์ แต่ที่ได้มาไม่มีเลย มีดีสุดก็คือ ชูเอา เฟลิกซ์ แต่ก็ไม่ใช่หน้าเป้าขนานแท้ มันจึงส่งผลการจบสกอร์มาถึงตอนนี้
เท่านั้นยังไม่พอสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่พอตเตอร์ เจอก็คือ “ความคาดหวัง” จากทั้งแฟนบอล, สโมสร, ผู้เล่น หรือแม้แต่เจ้าของสโมสร มันเป็นแรงกดดันที่อาจจะมองไม่เห็น แต่มันสัมผัสได้จากการกระทำที่ทุกคนแสดงให้เห็นอยู่ในตอนนี้
การอยู่ในสโมสรไม่ใหญ่มากอย่างไบรท์ตัน เรื่องแรงกดดันอาจจะไม่มากอย่างแย่ก็คือการกดดันห้ามตกชั้นเท่านั้น แต่พอมาอยู่ทีมใหญ่มันมากกว่านั้น ความคาดหวังมันสูงมากถึงขนาดต้องมีแชมป์ติดมือทุกซีซันกันเลย
มันเลยเป็นความกดดันที่พอตเตอร์ต้องแบกรับเอาไว้ แม้ว่าโบห์ลีจะบอกว่ายังไม่คิดถึงเรื่องแชมป์หรือพูดว่าต้องการสร้างทีมเพื่ออนาคต
แต่เอาเข้าจริงๆ คนเป็นระดับเจ้าของสโมสรจะไม่อยากประสบความสำเร็จเลยหรือ?? นั่นเป็นไปไม่ได้
มาถึงตอนนี้เวลาของพอตเตอร์ใกล้จะหมดลงแล้วถ้าอีก 2-3 นัดในลีกหลังจากนี้ในการเจอกับลีดส์ (เหย้า), เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) และเอฟเวอร์ตัน (เหย้า)
หากกุนซือวัย 47 ปียังไม่สามารถพา “เชลซี” จากที่เป็น “แมว” ในตอนนี้ให้กลับมาเป็น “สิงห์” ได้
ก็มีแววที่ต้องหางานใหม่ได้เลย!!!
มะระหวาน