หน้าแรกแกลเลอรี่

แรงสุดฉุดไม่อยู่ "แมนยูฯ" ชนะ 4 นัดติด ไล่อัด "อาร์เซนอล" บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก

ไทยรัฐออนไลน์

5 ก.ย. 2565 00:23 น.

"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านถล่ม อาร์เซนอล ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์วันอาทิตย์

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 ประจำวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย. 65 คู่ที่น่าสนใจ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด รับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูง

เกมนี้ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่ง แอนโทนี ปีกป้ายแดง เจ้าของค่าตัว 100 ล้านยูโร ที่เพิ่งย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ลงสนามเป็นตัวจริงทันที นอกนั้นเป็นชุดเดิมจากเกมชนะ เลสเตอร์ ซิตี้

ขณะที่ มิเกล อาร์เตตา กุนซืออาร์เซนอล ได้ มาร์ติน โอเดการ์ด กองกลางกัปตันทีม ฟิตทันลงเป็นตัวจริง ส่วนแนวรุกมี บูกาโย  ซากา, กาเบรียล เฆซุส และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี เป็นทีเด็ด 

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 7 แมนยูฯ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ แอนโทนี กระชากลากเลื้อยขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนตอกส้นมาให้ ดิโอโก ดาโลต์ เปิดบอลไปเสาสอง คริสเตียน อีริคเซน วอลเลย์เต็มข้อ บอลหลุดกรอบหวุดหวิด

ถัดมา 2 นาที อาร์เซนอล ได้ลุ้นบ้าง วิลเลียม ซาลิบา ซัดด้วยขวาในเขตโทษ บอลข้ามคานออกไป

จากนั้นนาทีที่ 10 โอกาสของแมนยูฯ เมื่อ เจดอน ซานโช ตะลุยเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดด้วยขวา อารอน แรมส์เดล ใช้ขาเซฟออกไปได้

นาทีที่ 11 อาร์เซนอล เกือบได้ประตู จากจังหวะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด ไปแซะแย่งบอลจาก คริสเตียน อีริคเซน มาให้ บูกาโย ซากา จ่ายทะลุขึ้นหน้าให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วมองว่า โอเดการ์ด ไปทำฟาวล์ อีริคเซน ก่อนแล้ว

นาทีที่ 19 อาร์เซนอล ได้เตะมุมฝั่งขวา บูกาโย ซากา เปิดบอลมาเสาไกล กาเบรียล เฆซุส โหม่งหลุดกรอบ

นาทีที่ 21 แอนโทนี ของแมนยูฯ เลี้ยงตัดจากฝั่งขวามาหน้าเขตโทษก่อนปั่นด้วยซ้าย บอลเหินข้ามคาน

ถึงนาทีที่ 32 อาร์เซนอล ได้ลุ้นจากจังหวะเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ กาเบรียล มาร์ติเยลลี โหม่งเน้นๆ แต่ ดาบิด เดเคอา เซฟออกไปได้

กระทั้งนาทีที่ 35 แมนยูฯ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ แอนโทนี ยิงด้วยซ้ายเข้าไป และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อปิศาจแดง

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ อาร์เซนอล อยู่ 1-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 51 อาร์เซนอล หวิดตีเสมอ เมื่อ บูกาโย ซากา พลิกบอลหลบแนวรับแมนยูฯ ก่อนยิงด้วยขวาในเขตโทษ บอลพุ่งหลุดเสาสองออกไป

จากนั้นนาทีที่ 60 อาร์เซนอล ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ ดิโอโก ดาโลต์ แบ็กขวาแมนยูฯ สกัดบอลมาเข้าทาง บูกาโย ซากา ซัดในเขตโทษเข้าไปไม่เหลือซาก

แต่นาทีที่ 65 แมนยูฯ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เมื่อ บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลทะลุแนวรับปืนใหญ่ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดไปยิงด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย

และในนาทีที่ 69 แมนยูฯ เกือบได้เม็ดสาม บรูโน เฟอร์นันเดส ยิงในเขตโทษ แต่ อารอน แรมส์เดล เซฟออกไปได้

ถึงนาทีที่ 75 แมนยูฯ นำห่าง 3-1 บรูโน เฟอร์นันเดส จ่ายบอลขึ้นมาทางขวาให้ คริสเตียน อีริคเซน พาบอลเข้าเขตโทษ ก่อนปาดมาทางซ้ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซัดเปรี้ยงเข้าไปเลย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ อาร์เซนอล ไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของตาราง ตามหลัง ปืนใหญ่ ที่ยังนำจ่าฝูง แค่ 3 คะแนน

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (GK), ดิโอโก ดาโลต์, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, คริสเตียน อีริคเซน, แอนโทนี, บรูโน เฟอร์นันเดส (กัปตันทีม), เจดอน ซานโช, มาร์คัส แรชฟอร์ด

อาร์เซนอล (4-2-3-1) : อารอน แรมส์เดล (GK), เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลไญส์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก, อัลแบร์ แซมบี โลกองกา, กรานิต ชากา, บูกาโย ซากา, มาร์ติน โอเดการ์ด (กัปตันทีม), กาเบรียล มาร์ติเนลลี, กาเบรียล เชซุส