ไทยรัฐออนไลน์
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ฟุตบอล คอมมูนิตี ชิลด์ 2022 มาครองได้สำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอล คอมมูนิตี ชิลด์ เปิดหัวฤดูกาล 2022-23 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 ก.ค. 65 ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แชมป์เอฟเอ คัพ พบกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เกมนี้ เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ดร็อป ดาร์วิน นูเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยเป็นตัวสำรอง แล้วส่ง หลุยส์ ดิอาซ, โรแบร์โต เฟอร์มิโน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็น 3 ประสานแนวรุก ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ นำมาโดย เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, แจ็ค กรีลิช และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 8 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลแฉลบ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ พุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
จากนั้น นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นบ้าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สอดมาโหม่งบอลเข้าข้างตาข่าย
ถึงนาทีที่ 21 ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ติอาโก อัลคันทารา เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอาบอลลงก่อนจ่ายย้อนมาให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ปั่นด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม
ถัดมา 3 นาที โอกาสของซิตี้ จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ จ่ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดด้วยขวาในเขตโทษ บอลเข้าข้างตาข่าย
นาทีที่ 30 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นอีก นาธาน อาเก เปิดบอลยาวขึ้นหน้าให้ ริยาด มาห์เรซ ซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบ แต่ อาเดรียน ปัดออกไปได้ แต่ก็โดนจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 33 แมนฯ ซิตี้ น่าได้ประตูสุดๆ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ยิงในเขตโทษ แต่ อาเดรียน เซฟออกไปได้
นาทีที่ 39 แมนฯ ซิตี้ ลุยต่อเนื่อง ริยาด มาห์เรซ ได้บอลในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนหาจังหวะยิงด้วยซ้ายแต่เบาเกิน อาเดรียน รับสบาย
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 46 แมนฯ ซิตี้ เกือบตีเสมอ จากจังหวะที่ โรดรี ตักบอลเข้าเขตโทษให้ ริยาด มาห์เรซ พักอกเอาบอลลงก่อนยิงด้วยซ้าย แต่ อาเดรียน เซฟออกไปได้
จากนั้นนาทีที่ 64 ลิเวอร์พูล หวิดได้เม็ดสอง เมื่อ ดารืวิน นูเญซ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองได้หลุดไปยิงในเขตโทษ แต่ซัดไปติดหน้าของ เอแดร์สัน
นาทีที่ 69 แมนฯ ซิตี้ ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฟิล โฟเดน ยิงด้วยซ้าย อาเดรียน เซฟไม่อยู่ โฟเดน ตามไปชาร์จบอลมาเข้าทาง ฮูเลียน อัลวาเรซ ยิงเข้าไปไม่พลาด
ถึงนาทีที่ 83 ลิเวอร์พูล ได้จุดโทษ จากจังหวะที่วีเออาร์เช็กว่า รูเบน ดิอาส ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พา ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 86 ลิเวอร์พูล เกือบได้เม็ดสาม เมื่อ ดาร์วิน นูเญซ ได้โหม่งในเขตโทษ แต่สะบัดเยอะไปหน่อย บอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว
ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+4 ลิเวอร์พูล นำห่าง 3-1 จากการโหม่งของ ดาร์วิน นูเญซ
นาทีที่ 90+7 แมนฯ ซิตี้ หวิดได้ประตูไล่จี้ เมื่อ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ได้ซ้ำจ่อๆ บอลชนคานออกไป
จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 3-1 คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 16 (แชมป์เดี่ยว 11 สมัย/แชมป์ร่วม 5 สมัย)
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล: อาเดรียน (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก อัลคันทารา, หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต เฟอร์มิโน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้: เอแดร์สัน (GK), ไคล์ วอลเกอร์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก, ชูเอา คันเซโล, โรดรี, แบร์นาโด ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิช