ไทยรัฐออนไลน์
แฟนบอลและนักเตะเชลซี ผุดแคมเปญต่อต้าน 1 ในกลุ่มทุนที่ยื่นข้อเสนอซื้อสโมสร เนื่องจากมีพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติและศาสนาอิสลาม
วันที่ 23 มี.ค. 65 หลังจาก โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ประธานสโมสร “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ประกาศขายทีมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นคนใกล้ชิด “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซียที่สั่งกองกำลังทหารบุกยูเครนอย่างหนัก
ด้าน ครอบครัวริกเก็ตส์ เจ้าของทีมเบสบอลของอเมริกัน ชิคาโก คับส์ ก็เป็น 1 ในเศรษฐีหลายรายที่สนใจอยากจะเข้ามาเป็นเจ้าของทีมเชลซี แต่ตอนนี้กำลังถูกแฟนบอลและนักเตะในสโมสรต่อต้านอย่างหนัก เนื่องจากคุณพ่อของ ทอม ริกเก็ตส์ ประธาน ชิคาโก คับส์ เคยแสดงความเห็นว่า “มุสลิมคือศัตรูของผม” และยังเคยมีพฤติกรรมเหยียดผิวอีกด้วย
เหตุผลดังกล่าวทำให้แฟนบอลเชลซีจำนวนมาก ใช้โซเชียลมีเดียปลุกกระแสต่อต้าน "ครอบครัวริกเก็ตส์" จากการเป็นผู้ประมูลเพื่อเทกโอเวอร์เชลซี และยังบอกอีกว่า “ถ้าครอบครัวริกเก็ตส์เข้ามา แฟนบอลมั่นใจว่า เชลซีจะไม่สงบสุขแน่นอน”
หลังจากนั้น พอล คาโนวิลล์ ผู้เล่นผิวดำคนแรกของ เชลซี ได้ออกมาต่อต้าน ครอบครัวริกเก็ตส์ เรื่องการเหยียดเชื้อชาติจนเกิดแคมเปญ #NoToRicketts ทำให้กระแสต่อต้านขยายเป็นวงกว้างในหมู่แฟนๆ เชลซี จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์เลยทีเดียว
คาโนวิลล์ เผยว่า "ผมเคยเห็นและได้ยินมามากพอสมควร นี่คือการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติครั้งใหญ่ วอนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องปฏิเสธการประมูลของครอบครัวริกเก็ตส์"
ต่อมา ทอม ริกเก็ตส์ ประธาน ชิคาโก คับส์ เผยว่า “พ่อของผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเทกโอเวอร์ครั้งนี้ แต่เราได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มแฟนบอล Chelsea Supporters' Trust รวมถึง Chelsea Pitch Owners PLC เพื่อบรรเทาความตึงเครียดที่เกิดขึ้น”
ล่าสุด ครอบครัวริกเก็ตส์ ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่า “ครอบครัวของเราต่อต้านความเกลียดชังทุกรูปแบบ การเหยียดเชื้อชาติและอิสลามโมโฟเบีย (ความหวาดวิตกต่อศาสนาอิสลาม) ไม่ควรมีในสังคมของเรา เราได้พัฒนาความร่วมมืออย่างลึกซึ้งกับชุมชนมุสลิมในชิคาโก เช่นเดียวกับชุมชนคนผิวสีทั้งหมด”
“การเคารพในความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกเป็นหัวใจสำคัญของค่านิยมของครอบครัวเรา หากเราชนะในการประมูลครั้งนี้ เราสัญญาต่อสโมสรและต่อแฟนบอลว่าเราจะส่งเสริมคุณค่าเหล่านี้อย่างจริงจัง”
นอกจากนี้ โจ ริกเก็ตส์ พ่อของประธาน ชิคาโก คับส์ ได้ออกมาขอโทษเกี่ยวกับความคิดเห็นของเขาในปี 2012 ว่า “ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอโทษสำหรับความคิดเห็นบางอย่างที่ผมมีในอดีต ผมเชื่อมั่นว่าความคิดในอดีตนั้นเป็นความคิดที่ผิด”