ไทยรัฐออนไลน์
"อย่าเอาความจริงมาล้อเล่น" เปิด 3 คอมเมนต์สุดจี๊ดจากแฟนแมนยูฯ ที่ยินดีกับคู่ปรับร่วมเมืองที่ต่อสัญญาอดีตแข้งเป้าหมายสำเร็จ
วันที่ 2 ก.พ. 65 ควันหลงจากการต่อสัญญาของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ผูกมัด เจา คันเซโล แบ็กสารพัดประโยชน์ดีกรีทีมชาติโปรตุเกสได้สำเร็จ ด้วยสัญญาระยะยาวจนถึงปี 2027 พร้อมรับค่าเหนื่อยเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 80,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม เดลี่เมล สื่อดังเมืองผู้ดีได้รวบรวม 3 คอมเมนต์จากแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองที่ดูเหมือนว่าจะอยากแสดงความยินดีกับ แมนฯ ซิตี้ ในการต่อสัญญาครั้งนี้ แต่แท้จริงแล้วตั้งใจประชด "ปิศาจแดง" ทีมรักของตัวเองมากกว่า ที่เคยพลาดโอกาสคว้าตัว เจา คันเซโล ที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ในฟูลแบ็กที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
ทั้งนี้ แกรี เนวิลล์ และ ฟิล เนวิลล์ 2 ตำนานกองหลังแมนยูฯ เคยแนะนำให้อดีตต้นสังกัดคว้าตัว เจา คันเซโล มาร่วมงาน หลังจากเคยเห็นแววยอดนักเตะตั้งแต่สมัยเป็นผู้จัดการทีมและผู้ช่วยโค้ชของ บาเลนเซีย ทีมดัง ลา ลีกา สเปน ช่วงสั้นๆ ในปี 2015-2016 แต่ เอ็ด วูดเวิร์ด ซีอีโอสโมสรในยุคนั้นก็ไม่สนใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายไป ยูเวนตุส ในปี 2018 แล้วย้ายมาเฉิดฉายเต็มตัวกับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2019 จนถึงปัจจุบัน
ซึ่ง 3 คอมเมนต์เด็ดจากแฟนบอลแมนยูฯ ซึ่งประชดทีมตัวเองหลังการต่อสัญญาของดาวเตะวัย 27 ปี ที่เดลี่เมลรวบรวมมามีดังนี้
"ไม่มีผู้เล่นของเราคนไหนที่ย้ายมาแล้วจะเก่งขึ้นกว่าตอนที่เซ็นสัญญาเข้ามาเลย ข่าวนี้จึงไม่ค่อยมีความสำคัญ เขาจะไม่มีวันกลายเป็นผู้เล่นแบบที่เขาเป็นในตอนนี้ ถ้าเขาย้ายมาอยู่กับเรา"
"ผมไม่เห็นว่าจะมีพัฒนาการของผู้เล่นนับตั้งแต่ปี 2014 (หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ) ผมจึงสงสัยว่าเราจะได้เห็น คันเซโล ในร่างนักเตะแมนฯ ซิตี้ ที่ ยูไนเต็ด หรือเปล่า ขอบคุณตระกูลเกลเซอร์ที่สร้างชื่อเสีย มากกว่าชื่อเสียงให้กับ ยูไนเต็ด"
"ความแตกต่างคือ เรามี โอเล (กุนนาร์ โซลชาร์ อดีตผู้จัดการทีม) แต่พวกเขามี (เป๊ป) กวาร์ดิโอลา ดังนั้น คันเซโล น่าจะล้มเหลวกับ ยูไนเต็ด"
เจา คันเซโล ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในปี 2019 ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ (2,700 ล้านบาท) ลงเล่นไปแล้ว 106 นัด ทำ 7 ประตู 14 แอสซิสต์ ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มโดดเด่นในเกมพรีเมียร์ลีกที่บุกไปชนะ แมนยูฯ 2-0 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่มนมา ด้วยการมีส่วนร่วมทั้ง 2 ประตูจากการทำ 1 แอสซิสต์ และเปิดบอลเข้าไปกดดันจน เอริก ไบญี สกัดเข้าประตูตัวเอง.