ไทยรัฐออนไลน์
"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ ไปหวุดหวิด 2-1 แซงขึ้นอันดับ 3 ของตาราง ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 เมื่อคืนวันอังคารที่ 18 พ.ค. 64 คู่ที่น่าสนใจ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี อันดับ 4 ของตาราง เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 ของตาราง โดยคู่นี้เพิ่งเจอกันไปในศึกเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ซึ่ง เลสเตอร์ เอาชนะไปได้ 1-0
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 34 เชลซี เกือบได้ประตูจากจังหวะที่ ติโม แวร์เนอร์ ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ วีเออาร์ เช็กว่า เป็นจังหวะแฮนด์บอล ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เบน ชิลเวลล์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ เจมี วาร์ดี โหม่งสกัดไม่ดี บอลมาตกใส่หน้าขาของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เข้าประตูไป
จากนั้นนาทีที่ 66 เชลซี ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ติโม แวร์เนอร์ โดน เวสลีย์ โฟฟานา ทำฟาวล์ และเป็น จอร์จินโญ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พา เชลซี หนีเป็น 2-0
ถึงนาทีที่ 76 เลสเตอร์ ไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี ฉกบอลมาจาก มัตเตโอ โควาซิช ก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ เคเลชี อิเฮียนาโช ยิงด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 90 เลสเตอร์ น่าตีเสมอสุดๆ จากจังหวะที่ ริคาร์โด เปเรรา เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ อโยเซ เปเรซ วิ่งมาซัดเน้นๆ บอลเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เชลซี ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 67 คะแนน แซง เลสเตอร์ ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตาราง ส่วน เลสเตอร์ มี 66 คะแนนเท่าเดิม หล่นมาอันดับ 4 ซึ่งผลนัดนี้ส่งผลดีกับ ลิเวอร์พูล อันดับ 5 ที่มีแต้มตามหลัง เลสเตอร์ อยู่แค่ 3 คะแนน และเหลือเกมอยู่ในมือถึง 2 นัด