หน้าแรกแกลเลอรี่

"เจอร์ราร์ด" ชู "อุลลิเยร์" ผู้มีพระคุณที่ลิเวอร์พูล หลังเสียชีวิตกะทันหัน

ไทยรัฐออนไลน์

15 ธ.ค. 2563 20:55 น.

"สตีวีจี" ออกมายกย่อง เชราร์ อุลลิเยร์ กุนซือที่ให้โอกาสประเดิมสนามกับ ลิเวอร์พูล ว่าเป็นผู้มีพระคุณในชีวิต รับสุดช็อกกับข่าวการจากไป

วันที่ 15 ธ.ค. 63 สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์ระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมกลาสโกว์ เรนเจอร์ส จ่าฝูงลีกสูงสุดของสกอตแลนด์ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง เชราร์ อุลลิเยร์ อดีตเจ้านายในทีม "หงส์แดง" ที่เพิ่งเสียชีวิตในวัย 73 ปีเมื่อวานนี้ (14 ธันวาคม 2563) หลังมีปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ

ทั้งนี้ อุลลิเยร์ เข้ามาเป็นกุนซือลิเวอร์พูลร่วมกับ รอย อีแวนส์ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1998 ก่อนรับหน้าที่แต่เพียงผู้เดียวหลังจาก อีแวนส์ ขอลาออก จากนั้น อุลลิเยร์ ก็มอบโอกาสให้ "สตีวีจี" ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายนในปีนั้น กระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมและสร้างความสำเร็จมากมายให้สโมสรในเวลาต่อมา

เจอร์ราร์ด วัย 40 ปี เผยว่าทั้งเขาและผู้ช่วยโค้ชอย่าง แกรี แม็คอัลลิสเตอร์ อดีตกองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ที่ย้ายจาก โคเวนทรี ซิตี้ มาร่วมงานด้วยกันในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2000-2002 ต่างก็ทำใจลำบากหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของอดีตเจ้านายที่ร่วมกันพาทีมคว้าแชมป์ถึง 5 รายการในปี 2001 ทั้ง ลีกคัพ, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า คัพ, แชริตี้ ชิลด์ และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ

แกรี แม็คอัลลิสเตอร์ (คนถือถ้วย) เคยร่วมงานกับ อุลลิเยร์ และ เจอร์ราร์ด ในทีมลิเวอร์พูล ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยของ
แกรี แม็คอัลลิสเตอร์ (คนถือถ้วย) เคยร่วมงานกับ อุลลิเยร์ และ เจอร์ราร์ด ในทีมลิเวอร์พูล ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยของ "สตีวีจี" ที่กลาสโกว์ เรนเจอร์ส

สตีวีจี กล่าวว่า "เชราร์ มีอิทธิพลต่อเราทั้งคู่เป็นอย่างมากกับการทำงานในวงการฟุตบอล รวมถึงการใช้ชีวิตด้วย เขาเป็นมากกว่าผู้จัดการทีม เพราะเขาคือคนที่ดูแลเอาใจใส่และเป็นที่รักของคนรอบข้าง ผมพยายามซึมซับและเก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ ที่ดีที่สุดจากโค้ชและผู้จัดการทีมทุกคนที่ผมร่วมงานด้วย แต่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องยากที่ผมจะมีบารมี, ความเอาใจใส่ และความรักในการทำงานได้เทียบเท่ากับที่ เชราร์ เคยมี"

"เขาไม่ใช่แค่คนที่มุ่งเน้นในเรื่องการทำงานด้านฟุตบอล และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่นกับผู้จัดการทีมเท่านั้น แต่ยังมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกับผมให้มีความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีขึ้น เขาพยายามปลูกฝังให้ผมเข้าใจในแท็กติกอย่างถ่องแท้และเรียนรู้วิธีการเล่นในแบบที่แตกต่างออกไป เพื่อให้ผมเป็นนักเตะที่เก่งขึ้นและยังเพิ่มเติมด้านอื่นๆ ที่จะช่วยส่งเสริมพรสวรรค์ที่มีอยู่ ซึ่งผมไม่เคยลืมสิ่งเหล่านั้นเลย"

"ผมจึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากขอบคุณเขามากๆ และผมก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ข่าวเมื่อวานนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งตอนแรกผมยังมีความสุขกับผลการแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ (เรนเจอร์ส บุกไปชนะ ดันดี ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมลีก) แต่หลังจากนั้นก็ต้องมาพบกับข่าวเศร้า" อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล ร่ายยาว