ส่วนผสมที่ (ไม่) ลงตัว

นับตั้งแต่ ดอนนี ฟาน เดอ เบค กองกลางชาวเนเธอร์แลนด์ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาสู่ชายคาโรงละครแห่งความฝัน ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ ตัวเขาก็ยังไม่ได้มีโอกาสออกสตาร์ตเป็นผู้เล่น 11 ตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สักที ซึ่งจะได้โอกาสในฟุตบอลถ้วยก็เท่านั้น และนั่นมันก็เป็นประเด็นคำถามขึ้นมาถึงการตัดสินใจของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์

บ้างก็ว่าแท้จริงแล้วเป็นเพราะทีมชวดได้ตัวเป้าหมายแรกอย่าง แจ็ค กรีลิช กองกลางกัปตันทีม “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ที่มีค่าตัวสูงเกินไป ตามข่าวสนนราคาระดับ 60-70 ล้านปอนด์

แต่อีกกระแสหนึ่งนั้นคือ ตัวเขาดันไปทับตำแหน่งกับ บรูโน เฟอร์นันเดส กองกลางชาวโปรตุเกส ที่ย้ายจาก สปอร์ติง ลิสบอน มาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกได้ทันที นอกจากนี้ยังรวมถึง พอล ป็อกบา ที่สามารถเล่นในบทบาทกองกลางตัวรุกได้อีกคน ก็ยังกลายเป็นแค่สำรองในเวลานี้

โอเคล่ะว่า ดอนนี ฟาน เดอ เบค สามารถเล่นในตำแหน่งอื่นนอกจากหมายเลข 10 ได้แค่ตำแหน่งหมายเลข 6 และหมายเลข 8 รวมถึงยังสามารถขยับไปเล่นปีกก็ได้ แต่มันไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัด หรืองัดศักยภาพที่ดีที่สุดออกมา

นั่นทำให้ มาร์โก ฟาน บาสเทน ตำนานลูกหนังของเนเธอร์แลนด์ออกมาบอกว่า นักเตะที่มีคุณภาพแบบนี้ไม่ควรตันสินใจย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เขาเปรียบเปรยว่าสถานการณ์ตอนนี้ราวกับว่านักเตะกำลังรอคอยโอกาสที่จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 6-7 นัดต่อปี

หรืออย่างการที่ แกรี เนวิลล์ และ เจมี คาร์ราเกอร์ ต่างก็ออกมาถกประเด็นเรื่องนี้กันอย่างดุเดือด โดยที่แต่ละคนมีทิศทางหรือมุมมองที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง

และยิ่งช่วงหลัง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กลับมาใช้กองกลางตัวรับ 2 คนอย่าง เฟร็ด และ สก็อตต์ แม็ค โทมิเนย์ นั่นทำให้ตำแหน่งจอมทัพ หรือกึ่งกลางตัวรุกจะเหลือแค่คนเดียว ซึ่งแน่นอนว่า บรูโน เฟอร์นันเดส ยึดครองสัมปทานเหนียวแน่นหนึบ

เชื่อว่าความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะยังคงเป็นแบบนี้อีกสักพักหากทีมยังคงใช้รูปแบบการเล่นในปัจจุบัน หรือบางทีอาจต้องรอให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ดั่งเช่น พอล ป็อกบา ที่ทำท่าว่าจะไม่ต่อสัญญาย้ายออกจากทีมไป.