ไทยรัฐออนไลน์
การย้ายมาของ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ทำให้แฟนๆ ในโลกโซเชียลแซวกันว่า บรูโน เฟอร์นันเดส อาจมีลุ้นดาวซัลโว เมื่อสถิติบ่งบอกว่าสมาชิกใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นจอมเรียกจุดโทษ
วันที่ 3 ก.ย. 63 ควันหลงจากการเสริมทัพรายแรกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ที่เพิ่งคว้าตัว ดอนนี ฟาน เดอ เบค มาจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม โดยเซ็นสัญญา 5 ปี ค่าตัวเบื้องต้น 35 ล้านปอนด์ (1,435 ล้านบาท) ก่อนจ่ายอีก 5 ล้านปอนด์ (205 ล้านบาท) ตามผลงานในอนาคต
ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า มิดฟิลด์วัย 23 ปี คือผู้เล่นที่เรียกจุดโทษได้มากที่สุดของศึกเอเรดิวิซี หรือ ลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ นับตั้งแต่ปี 2018 ในช่วงที่ยังเล่นให้กับ อาแจกซ์
นอกจากนี้ กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ยังเป็นผู้เล่นที่มักจะเติมขึ้นมาเชื่อมเกม หรือหาจังหวะทำประตูในกรอบเขตโทษบ่อยครั้ง โดยในช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุด เขามีส่วนกับการได้ประตูของ อาแจกซ์ ถึง 49 ลูก แบ่งเป็นยิงเอง 28 ประตู (ยิงในกรอบเขตโทษ 26 ประตู) และแอสซิสต์อีก 21 ครั้ง
สถิติดังกล่าวของ ฟาน เดอ เบค ถือว่าเป็นรองนักเตะ "ปิศาจแดง" ในช่วงเวลาเดียวกันเพียง 2 คน คือ บรูโน เฟอร์นันเดส ที่มีส่วนกับการได้ 82 ประตูใน 3 ซีซั่นหลังสุด รวมช่วงที่ยังอยู่กับ สปอร์ติง ลิสบอน และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่มีส่วนกับการได้ 52 ประตู ใน 3 ฤดูกาลหลังสุดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
นอกจากนี้ ฟาน เดอ เบค ยังมีสถิติที่น่าทึ่งในการหาจังหวะเล่นบอลในกรอบเขตโทษ โดยมีโอกาสสัมผัสบอลในกรอบ 18 หลาของคู่แข่งมากถึง 489 ครั้ง ตลอด 3 ปีหลังสุดในศึกเอเรดิวิซี มากกว่าผู้เล่นทุกคนในทีม "ปิศาจแดง" เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก
เมื่อเทียบกับมิดฟิลด์คนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีกช่วงเวลาเดียวกันแล้ว ฟาน เดอ เบค ถือว่าได้โอกาสสัมผัสบอลในเขตโทษเป็นรองเพียงแค่ ดาบิด ซิลบา อดีตจอมทัพแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งย้ายไป เรอัล โซเซียดัด ที่ทำไว้ 537 ครั้ง
จากสถิติดังกล่าว ทำให้โลกโซเชียลแซวกันว่า ฟาน เดอ เบค จะช่วยปั้น บรูโน เฟอร์นันเดส ให้เป็นดาวซัลโวในซีซั่นใหม่ หลังจากฤดูกาลที่แล้ว "ปิศาจแดง" ได้จุดโทษถึง 22 ครั้ง มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป
ทั้งนี้ จอมทัพทีมชาติโปรตุเกสมีโอกาสสังหารจุดโทษให้ แมนฯ ยูไนเต็ด 8 ครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อเดือนมกราคม และเป็นประตูทุกครั้ง อีกทั้งยังไม่พลาดจุดโทษเลยตลอด 19 ครั้งหลังสุด นับตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ปี 2019 สมัยยังอยู่กับ สปอร์ติง ลิสบอน.