หน้าแรกแกลเลอรี่

ดอนนี ฟาน เดอ เบค : โชคชะตาที่พลิกผันสู่การล่าฝันกับปิศาจแดง

ไทยรัฐออนไลน์

5 ก.ย. 2563 06:00 น.

ค่ำคืนวันพุธที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาทัพ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมรภูมิลูกหนังอันดับหนึ่งของโลกได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและสื่อโซเชียลมีเดียครบทุกช่องทางของสโมสร เปิดตัว ดอนนี ฟาน เดอ เบค กองกลางชาวเนเธอร์แลนด์ ที่เพิ่งย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมชั้นนำในศึก เอเรดิวิซีลีก มาร่วมทีมด้วยค่าตัวราวๆ 40 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญา 5 ปีเต็มหรือไปจนถึงปี 2025 โดยมีออปชั่นขยายสัญญาเพิ่มอีก 1 ปี รับค่าเหนื่อย 107,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์

แต่ก่อนที่เส้นทางดาวเตะวัย 23 ปีจะเลือกเดินบนถนน "ยูไนเต็ด เวย์" (United Way) ภายใต้การนำทีม โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ จริงๆ แล้วนั้น ฟาน เดอ เบค เคยเกือบได้ย้ายไปโชว์เพลงแข้งที่ดินแดนกระทิงดุในชายคา ซานติอาร์โก เบอร์นาบิว กับทาง เรอัล มาดริด ซึ่งเจ้าตัวออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยมีใจความว่า ผมตกลงกับ เรอัล มาดริด ไปแล้ว แต่มันมีเหตุผลบางอย่างที่มันทำให้ดีลไม่ลุล่วง รวมถึงกับสโมสรอื่น

มีการคาดการณ์เอาไว้ว่าทีมเหล่านั้นประกอบไปด้วย อาร์เซนอล, ทอตแนม ฮอตสเปอร์, ยูเวนตุส, บาร์เซโลนา รวมถึง แอตเลติโก มาดริด และหลังจากนั้นเป็นทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดต่อเข้ามา ซึ่งตัวเขาบอกเลยว่า นี่คือสโมสรในฝันของผม พวกเขาคือสโมสรที่มหัศจรรย์มากๆ และอยู่ในลีกที่แกร่งแกร่งที่สุดในโลก นั่นทำให้ผมไม่จำเป็นต้องคิดแม้แต่วินาทีเดียวเมื่อโอกาสนั้นมาถึง

ย้อนกลับไปในดีลระหว่าง ฟาน เดอ เบค กับ เรอัล มาดริด มี 2 ปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้การย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ "โลส บรังโกส" ไม่เกิดขึ้น แม้ดีลจะดำเนินไปจนเกือบจะได้บทสรุปแล้วก็ตาม ข้อแรกที่ทำให้ดีลไม่บรรลุนั่นคือการที่ทีมของ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส ไม่สามารถระบายนักเตะที่ไม่ต้องการออกไปทำให้ไม่สามารถเซ็นสัญญากับ ฟาน เดอ เบค ได้ เพราะช่วงซัมเมอร์ปี 2019 พวกเขาทุ่มทุนสร้างด้วยเม็ดเงินระดับเฉียด 270 ล้านปอนด์ ไปกับการคว้าตัว เอเดน อาซาร์ด, ลูกา โยวิช, แฟร์กล็องด์ เมนดี, เอแดร์ มิลิเตา รวมถึง โรดริโก ซิลวา เดอ โกเอส แน่นอนว่าหากพวกเขาจะทุ่มเม็ดเงินในระดับ 50 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่ทาง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตั้งไว้ในเวลานั้น พวกเขาจะต้องผิดกฎ ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ อย่างแน่นอน

ปัจจัยที่สองแม้ดีลครั้งนี้จะดำเนินไปแล้วถึง 90% ซึ่งการเจรจาหลักๆ ทั้งค่าตัว และ ค่าเหนื่อยลงตัวกันหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายอย่างการตรวจร่างกายเท่านั้น ดีลก็จะสมบูรณ์ครบ 100% แต่ทว่าด้วยผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด-19" หรือไวรัสโคโรนา ทำให้ เรอัล มาดริด จำเป็นต้องล้มกระดานดีลนี้ลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นจึงทำให้ทีมต้องผ่าทางตัดด้วยการหันไปดึงตัว มาร์ติน โอเดการ์ด มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ ท่ีกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมระหว่างการย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ เรอัล โซเซียดาด กลับมาใช้งานแทน เพราะไม่ต้องมีการใช้จ่ายหรือทุ่มเงิน

ตัดภาพกลับมาในวินาทีที่ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ ตัวเขาได้เผยความรู้สึกครั้งแรกด้วยใจความที่ว่า ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดยังไงดีนะกับโอกาสอันแสนวิเศษที่ได้ย้ายมาเล่นให้กับหนึ่งในสโมสรที่มีหน้าประวัติศาสตร์ที่เหลือเชื่อแบบนี้ ผมอยากขอบคุณทุกคนที่ อาแจ็กซ์ฯ ผมเติบโตมาจากที่นั่น และแน่นอนว่าด้วยความผูกพันที่มี เราจะยังมีสายใยที่ดีถึงกันเสมอ แล้วสำหรับก้าวต่อไปของเส้นทางอาชีพการค้าแข้ง ผมจะเล่นด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุดและแน่นอนว่าไม่มีมาตรฐานใดจะสูงกว่าที่สโมสรแห่งนี้แล้ว

ทุกคนล้วนบอกกับผมว่าบรรยากาศใน โอลด์ แทรฟเฟิร์ด มันน่าเหลือเชื่อมากๆ ซึ่งผมกำลังรอที่จะได้สัมผัสกับสิ่งนี้ ทันทีที่แฟนบอลได้รับอนุญาตให้เข้ามาชมเกมการแข่งขันในสนามได้ สโมสรแห่งนี้มีกองกลางที่ดีที่สุดในโลกหลายคนผมเองก็หวังว่าจะได้เรียนรู้จากพวกเขาและนำจุดเด่นของผมมาช่วยเพื่อนๆ ในทีม ผมได้คุยกับโค้ช (โอเล กุนนาร์ โซลชาร์) แล้วนะถึงวิสัยทัศน์และแนวทางของทีมชุดนี้ที่กำลังจะเดินไป ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม

ขณะที่ทาง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ออกมาบอกถึงลูกทีมคนใหม่ว่า เขา (ดอนนี ฟาน เดอ เบค) มีเทคนิคที่ยอดเยี่ยมและมีคุณสมบัติหลายอย่างตรงตามที่สโมสรของเราต้องการ เขามีคาแรกเตอร์ที่สอดคล้องไปกับความสำเร็จของทีม เขามีจุดเด่นที่การหาพื้นที่ว่าง เขาเคลื่อนที่ได้ดี และอ่านเกมได้อย่างยอดเยี่ยม แน่นอนว่าเขาจะช่วยเพิ่มเติมในเรื่องของคุณภาพอื่นๆ ในแผงมิดฟิลด์ และการมาถึงของเขาจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและขนาดของทีมในตำแหน่งดังกล่าว

ผลงานของเขาในเอเรดิวิซีลีกและในเวทียุโรปของเขายอดเยี่ยมมาหลายปี ผมรอคอยที่จะได้ร่วมงานกับเขา นอกจากนี้ยังมี เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ผู้บริหารคนดังของ อาแจ็กซ์ฯ ถึงกับต้องร่อนหนังสืออวยพรขอให้นักเตะโชคดีพร้อมอ้อนให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูแลแข้งรายนี้ให้ดีๆ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่านักเตะรายนี้มีความสำคัญกับทีมมากขนาดไหน รวมถึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี, ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท, แฟรงกี เดอ ยอง รวมถึง เวอร์จิล ฟานไดค์ ก็ออกมาพูดในทำนองคล้ายๆ กันตรงที่เชื่อว่าเป็นการย้ายทีมที่ถูกต้องเหมาะสม พร้อมเอาใจช่วยให้นักเตะประสบความสำเร็จกับเส้นทางใหม่ในอาชีพการค้าแข้ง

กางดูสถิติส่วนตัวของ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ลงเล่น 159 นัด ทำได้ 40 ประตูกับ 34 แอสซิสต์ โดยแบ่งออกเป็น ฤดูกาล 2016-17 ลงเล่น 32 นัด 0 ประตู 4 แอสซิสต์, ฤดูกาล 2017-18 ลงเล่น 39 นัด 13 ประตู 46 แอสซิสต์, ฤดูกาล 2018-19 ลงเล่น 57 นัด 17 ประตู 13 แอสซิสต์ และฤดูกาลล่าสุด 2019-20 ลงเล่น 37 นัด 10 ประตู 11 แอสซิสต์

หากนับเฉพาะผลงานใน เอเรดิวิซีลีก ในฤดูกาลนี้ตัวเขาทำไป แอสซิสต์ 5 (อันดับในลีก 14), ทำได้ ประตู 8 (อันดับในลีก 17), สร้างโอกาส 41 (อันดับในลีก 20), สร้างโอกาสสำคัญ 6 ครั้ง (อันดับในลีก 32), ยิงเข้ากรอบ 16 ครั้ง (อันดับในลีก 36) รวมถึงยังเป็นนักเตะที่เรียกจุดโทษได้มากที่สุดในศึก เอเอดิวิซีลีก ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งสถิติแบบนี้แน่นอนว่าเข้าทาง บรูโน เฟอร์นันเดส เพลย์เมกเกอร์ชาวโปรตุเกส ที่ยิงจุดโทษให้ทีมไม่พลาดเลยจากการยิง 8 ครั้ง ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และไม่พลาดเลยตลอด 19 ครั้งหลังสุด

สถิติระบุว่าช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ฟาน เดอ เบค ยิงในกรอบเขตโทษได้ถึง 26 ประตูและยังแอสซิสต์ไปได้อีก 21 ครั้ง นอกจากนี้ใช่เวลาเดียวกันตัวเขายังเป็นผู้เล่นที่มีโอกาสสัมผัสบอลมากที่สุดในกรอบ 18 หลามากถึง 489 ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ามันมากกว่าผู้เล่นในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกคน และถ้าเทียบผู้เล่นทุกคนในพรีเมียร์ลีก ก็เป็นรองเพียงแค่ ดาบิด ซิลวา อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งย้ายไปร่วมทีม เรอัล โซเซียดาด ที่ทำไว้ 537 ครั้ง

สไตล์การเล่น ดอนนี ฟาน เดอ เบค เป็นผู้เล่นที่เล่นได้หมดทุกตำแหน่งในแผงกองกลาง แต่ถ้าจะให้เลือกสักทางตัวเขาจะเหมาะกับเกมรุกมากกว่าที่จะเป็นในแบบ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ เขามีจุดเด่นที่การขยับหาพื้นที่ว่าง คอยเชื่อมเกมลำเลียงบอลจากเกมรับไปเป็นเกมรุก มีเทคนิคการพาบอลตะลุยฝ่าดงคู่แข่ง ตลอดจนการทำประตูที่ตัวเขามักจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในกรอบ 18 หลา ได้บ่อยๆ

การมี บอล ป็อกบา และ บรูโน เฟอร์นันเดส ที่เป็นผู้เล่นตัวจริงในตำแหน่งตัวรุกอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกันว่าการจะส่ง ดอนนี ฟาน เดอ เบค ลงสนามพร้อมกัน มันจะส่งผลเสียต่อสมดุลของทีมหรือไม่ ที่เน้นเกมรุกเต็มพิกัดมากเกิน เพราะไม่มีกองกลางตัวรับทำหน้าที่ตัดเกมเลยเมื่อเทียบกับระบบการเล่นปัจจุบัน แต่เชื่อว่า โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ น่าจะรู้วิธีการในการใช้งานนักเตะให้เกิดประโยชน์มากที่สุดกับทีม หรือบางทีเราจะเห็นระบบการเล่น 4-4-2 แบบไดมอนด์ถูกปัดฝุ่นกลับมาใช้งานอีกครั้ง หรืออาจะระบบที่ใช้บ่อยอย่างๆ 4-2-3-1 แต่ถูกพัฒนามากขึ้นตรงที่อาจให้ เฟอร์นันเดส, ป็อกบา และ ฟาน เดอ เบค คอยสลับตำแหน่งระหว่างกันเพื่อความยืดหยุ่น อาจนับรวมระบบ 4-3-3 ก็มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้

สาเหตุที่ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ผู้ที่คบหาดูใจกับ เอสเทลล์ เบิร์กแคมป์ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ อดีตกองหน้าระดับตำนานจาก "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ตัดสินใจเลือกเสื้อหมายเลข 34 แทนที่จะเป็นเบอร์ 16 เป็นเพราะต้องการให้เกียรติกับอดีตเพื่อนร่วมทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม อย่าง อับเดลฮัค นูริ ที่ต้องโชคร้ายแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรด้วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะนั่นเอง

สำหรับเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแรกประจำฤดูกาล 2020-21 จะได้ฤกษ์เปิดฉากฟาดแข้งกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 กันยายนนี้ แต่ด้วยความที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โม่แข้งในศึก ยูโรปาลีก ทำให้ทีมได้พักไม่ต้องลงเล่นในเกมนัดแรกเพื่อได้เวลาพักฟื้นที่มากพอและจะเริ่มต้นด้วยการลงสนามพบกับ "อินทรีผงาด" คริสตัล พาเลช ในวันที่ 19 กันยายนนี้แทน

จากช่วงระยะเวลาดังกล่าวก็ยังถือว่ามีเวลาพอสมควรที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ จะปรับทีมให้พร้อมมากที่สุด รวมถึง ดอนนี ฟาน เดอ เบค ก็ต้องแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเอง เพื่อโอกาสในการลงสนามด้วย แม้ตัวเขาจะย้ายมาด้วยค่าตัวที่แพงในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าเขาจะได้รับตำแหน่งตัวจริงได้โดยง่าย มันคือบททดสอบและความท้าทายที่ยากพอสมควร แต่เป็นที่เชื่อกันว่ามันคงไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไปนัก หากตัวเขาทุ่มเทและโฟกัสกับทีมอย่างแท้จริง

ผู้เขียน : iPoppz_5

กราฟิก : Sathit Chuephanngam