หน้าแรกแกลเลอรี่

ปัญหาที่ต้องรีบแก้

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

6 ม.ค. 2562 05:01 น.

รู้ผลกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเกมพรีเมียร์ลีกนัดบิ๊กแมตช์ ระหว่างลิเวอร์พูล จ่าฝูง พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง ผลปรากฏว่า “เรือใบสีฟ้า” เปิดบ้านเชือด “หงส์แดง” ไปอย่างสนุก 2-1 ยัดเยียดความปราชัยเกมแรกให้กับจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

ทำให้ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ไล่ตาม ลิเวอร์พูล เหลือแค่ 4 แต้มเท่านั้น เหลือการแข่งขันอีก 17 นัดหนทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกยังอีกยาวไกล

นอกจากยัดเยียดความปราชัยให้ “หงส์แดง” เป็นทีมแรกแล้ว แมนฯซิตี้ ก็ยังเป็นทีมแรกที่เจาะแนวรับอันแข็งแกร่งของลิเวอร์พูล เข้าไปยิงได้ 2 ประตูทีมแรกเช่นกัน เพราะที่ผ่านมาลูกทีมของเจอร์เกน คลอปป์ เสียเพียงแค่ 1 เม็ดมากสุดเท่านั้น

แต่สิ่งที่เห็นจากเกมพ่ายแพ้นัดนี้คือปัญหาแนวรับที่เริ่มจะเห็นได้ชัด โดยเฉพาะปราการหลังคู่กลาง ตอนนี้มีเพียงแค่เวอร์จิล ฟาน ไดก์ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เป็นตัวหลักที่เล่นได้คงเส้นคงวาและวางใจได้อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนเดยัน ลอฟเรน ไม่ต้องพูดถึงแม้ว่าจะมีดีกรีรองแชมป์โลกกับโครเอเชียติดตัวมา แต่ในระดับเกมพรีเมียร์ลีกที่ใช้ความรวดเร็วขนาดนี้ ลอฟเรนแก่เกินไปแล้วค่อนข้างอืดอาดยืดยาดพอสมควร

ลิเวอร์พูลมีปัญหา 2 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟอย่าง โจ โกเมซ กับโจเอล มาติป ที่นัดกันเจ็บ แม้ว่าตามข่าวจะใกล้หายเจ็บเต็มทน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาขนาดไหนที่จะกลับมาฟิตเปรี๊ยะและคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน จะต้องเร่งแก้ไขจุดบอดตรงนี้ให้ได้ โดยเฉพาะการที่จะหาเซ็นเตอร์ฮาล์ฟดีๆ มาแบ่งเบาภาระของฟาน ไดก์ อีกสักคนมันน่าจะช่วยให้หนทางโอกาสคว้าแชมป์ในรอบ 29 ปีง่ายขึ้น

ก่อนหน้านี้ “หงส์แดง” มีปัญหาแนวรุกที่ยิงทิ้งยิงขว้าง ส่วนแนวรับแข็งดุจหินผา

แต่คลอปป์ก็ปรับจูนให้บรรดา 3 ประสานแนวรุกใช้โอกาสน้อยลงและทำสกอร์ได้มากขึ้นโดยเฉพาะ โรแบร์โต ฟีร์มิโน กองหน้าทีมชาติบราซิลที่กลับมายิงได้เป็นกอบเป็นกำแบบต่อเนื่อง ด้านซาดิโอ มาเน ก็ดูคมขึ้น ส่วนโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ไม่ต้องพูดถึงยิงเยอะเป็นปกติ

กลับกันพอภารกิจปรับแนวรุกเสร็จสิ้น แนวรับดันก็กลับมาเป็นปัญหาให้ปวดหัวแทนอีก

แฟนหงส์อาจจะมองว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่เดียว โกเมซกับมาติป กลับมาก็คงดีขึ้น

แต่อย่าลืมว่าหลังจากนี้ไปโปรแกรมจะเตะถี่ขึ้นเรื่อยๆ นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้วที่ต้องขับเคี่ยวกันอย่างสุดๆ ก็ยังมี ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ไหนจะเอฟเอ คัพ อีก ถ้าหวังจะคว้าถ้วยให้ได้สักใบในปีนี้จะต้องจัดเต็มหมด

และถ้าเกิดมีปราการหลังเจ็บเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ลองคิดดูว่าถ้าโชคร้าย ฟาน ไดก์ เจ็บหนักขึ้นมาแนวรับ “หงส์แดง” จะเป็นยังไง

เชื่อว่าจบเกมพ่าย “เรือใบสีฟ้า” ทำให้ คลอปป์น่าจะพอนึกออกว่าจะต้องทำอะไรบ้างกับแนวรับ

ตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองมีเวลาเหลือ เพียง 20 วันนิดๆแล้ว

จะทำอะไรก็ต้องรีบทำแล้ว ไม่เช่นนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้จนเป็นเหตุให้ชวดแชมป์

จะมานั่งเสียใจทีหลังมันก็ไม่ทันแล้ว!!

มะระหวาน