ไทยรัฐออนไลน์
“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บ 3 คะแนนอันล้ำค่า หลังบุกมาถล่ม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 3-1 แบบใจหายใจคว่ำ และนี่คือ 5 สิ่งที่ได้เห็นในเกมนี้...
1.ดาบิด เดเคอา โคตรเซฟ!!!!
ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน โชว์ฟอร์มสุดเหนียวหนึบ ใช้ทั้งมือทั้งขา เซฟการระดมยิงจากบรรดาแข้งปืนใหญ่ไปถึง 14 ครั้งในเกมนี้ โดยมีการเปิดเผยหลังจบเกมด้วยว่านี่คือสถิติการเซฟในเกมเดียวมากที่สุดตลอดกาลของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลยทีเดียว ซึ่งถ้ามองในแง่ดีก็คือปิศาจแดงมีนายด่านที่ไว้ใจได้อยู่กับทีม แต่ถ้ามองในแง่ลบก็คือการที่ เดเคอา ต้องเซฟมากมายขนาดนี้ เป็นเพราะกองหลังเล่นได้ไม่ดีพอ
2.กองหลังปิศาจแดงยังต้องปรับปรุง!!
ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมายกับเกมรับอันย่ำแย่ของปิศาจแดงในนัดนี้ เคลียร์บอลกันไม่ขาด ยืนตำแหน่งกันไม่ดี ปล่อยให้ผู้เล่นอาร์เซนอลมาป้วนเปี้ยนในเขตโทษกันอย่างง่ายดาย โดยเฉพาะจังหวะเสียประตูในเกมนี้ที่ปล่อยให้แนวรุกปืนใหญ่ยืนโล่งๆ หน้าประตู โดยไม่มีตัวประกบแบบนั้นได้ยังไง ถ้า ดาบิด เดเคอา ไม่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบในนัดนี้ รับรองสกอร์คงไม่ออกมาเป็นอย่างที่เห็นกันแน่นอน แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนักเตะของปืนใหญ่จบสกอร์ไม่เฉียบขาดกันเองด้วย
3.เมสซี ลินการ์ด ฟอร์มเทพอีกแล้ว!!
หลังจากทำประตูได้ในนัดที่แล้ว ลินการ์ด พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม แถมได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้งจาก โชเซ มูรินโญ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น มีความขยัน หาพื้นที่ให้ตัวเองได้ดี ก่อนซัดไป 2 ประตู ตอบแทนความไว้วางใจจากน้ามู และน่าจะทำให้อนาคตของ เฮนริค มคิตาร์ยาน ในถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ด มีความสั่นคลอนไม่น้อยเลย
4.ลูกากู ยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ!!
เป็นอีกนัดที่ โรเมลู ลูกากู ยังไม่สามารถกลับสู่ฟอร์มเก่งของตัวเองได้ รับบทเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่เก็บบอลไม่ได้ ไม่ขยันช่วยเพื่อนไล่บอล แถมครึ่งแรกยังเกือบสกัดบอลเข้าประตูตัวเองอีกด้วย ซึ่งบางทีอาจถึงเวลาแล้วที่ มูรินโญ ควรจะดร็อป ลูกากู บ้าง เพื่อให้นักเตะได้ทบทวนผลงานตัวเอง และเป็นการกระตุ้นไปในตัวด้วย เพราะถ้าจ่ามูยังไม่กล้าดร็อปแบบนี้ อาจทำให้ลูกากูคิดว่ายังไงก็ได้ลงเป็นตัวจริง เล่นแบบชิลๆ ไม่มีความกดดันอะไร
5.รูปเกมโดยรวมยังไม่ดี!!
เกมนี้ทีมปิศาจแดงทำได้ดีในช่วงต้นเกม เดินหน้าบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่องจนมาได้ 2 ประตูอย่างรวดเร็ว แต่พอนำ 2 ประตู ก็เริ่มชะล่าใจ เปลี่ยนมาเน้นเกมรับจนโดนลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ลุยเข้าใส่จนได้ประตูตีไข่แตกในช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนจะได้ ลินการ์ด มายิงประตูนำ 3-1 ทำให้คลายความกดดันลงไปได้บ้าง แต่ก็โดนบุกแหลกในช่วงเวลาที่เหลือ แต่ก็ต้านเอาไว้ได้ แต่บอกเลยว่าเล่นแบบนี้แฟนบอลผีแดงหัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ!!