ไทยรัฐออนไลน์
ส่องทำเนียบ 4 นักฟุตบอลเอเชียที่เคยคว้าแชมป์ "พรีเมียร์ลีก อังกฤษ" สมรภูมิลูกหนังอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งทาง "ทาคุมิ มิโนามิโนะ" ตัวรุกชาวญี่ปุ่นคือคนล่าสุดที่ได้สัมผัสแชมป์ลีก
ปาร์ค จีซอง
อดีตแข้ง “โสมขาว” ผู้มีโอกาสสัมผัสถ้วยพรีเมียร์ลีก 4 สมัย สมัยที่ค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกลายเป็นตำนานแข้งเอเชีย ในลีกอังกฤษจนถึงปัจจุบัน
ปาร์ค เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมมหาวิทยาลัย มยอง-จี ก่อนจะย้ายมาอยู่กับเกียวโต ซังงะ ในเจลีก ในปี 2003 กุส ฮิดดิงก์ อดีตผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้ กลับไปรับงานคุมทีมพีเอสวี ไอน์โฮเฟน ก็ได้ตัดสินใจดึง "ปาร์ค" ไปเล่นกับทีมในลีกดัตช์ ผลงานเด่นในช่วงนั้น คือ การพาต้นสังกัด เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2004-2005
ผลงานของ "ปาร์ค" ไปเข้าตา "เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" ก่อนที่จะได้ย้ายไปอยู่กับทีม "ปิศาจแดง" ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ (160 ล้านบาท) จากนั้น เขาก็เป็นกำลังหลักให้กับเเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคว้าแชมป์กับแมนฯยูฯ ถึง 4 สมัย นอกจากนั้น ยังช่วยแมนยูฯ คว้าแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2007-2008 และแชมป์สโมสรโลกปี 2008
จนกระทั่งปี 2012 ปาร์คลงสนามกับแมนยูฯ น้อยลง ก่อนย้ายไปอยู่กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ก่อนที่จะเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน และกลับไปเล่นกับพีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น เป็นสโมสรสุดท้าย
ผลงานเด่นของปาร์ค จี ซอง กับ แมนยูฯ
ลงเล่นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7 ฤดูกาล
ลงสนาม 134 นัด ยิง 19 ประตู
แชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย
ผลงานฤดูกาล 2005-2006 ลงเล่น 34 นัด ยิง 1 ประตู
ผลงานฤดูกาล 2006-2007 ลงเล่น 14 นัด ยิง 5 ประตู
ผลงานฤดูกาล 2007-2008 ลงเล่น 12 นัด ยิง 1 ประตู
ผลงานฤดูกาล 2009-2010 ลงเล่น 17 นัด ยิง 3 ประตู
แชมป์อื่นๆ
-ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย
-ชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย
ทาคุมิ มินามิโนะ
แม้จะเพิ่งย้ายมาอยู่กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง แต่ทาคุมิ มินามิโนะ กำลังจะกลายเป็นผู้เล่นจากเอเชียอีกหนึ่งคน ที่ได้สัมผัสแชมป์กับทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ ถึงแม้ว่า เขาจะยังไม่สามารถทำผลงานได้โดดเด่นกับต้นสังกัดใหม่ก็ตาม
“มินามิโนะ” เริ่มค้าแข้งกับเซเรโซ โอซากา ก่อนย้ายไปร่วมทีมเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เขามีโอกาสฉายแววกับทีมชาติญี่ปุ่น ชุดยู-23 และเคยลงสนามดวลกับแข้งทีมชาติไทยในขณะนั้นมาแล้ว ทั้งชนาธิป สรงกระสินธ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาอยู่ในสนาม ในเกมที่ทีมชาติไทยแพ้ 0-4 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2016 ที่ประเทศกาตาร์
ชอตที่จุดกระแสให้ “มินามิโนะ” ได้รับความสนใจจากทีมหงส์แดง ก็คือ ชอตที่เขาสอดเข้ามาทำประตู ลิเวอร์พูล ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่เป็นที่พูดถึงกันทั่วโลก จากนั้นในเดือนธันวาคม เขาก็ย้ายมาร่วมทีม "หงส์แดง"
ปัจจุบัน เจ้าตัวลงสนามกับลิเวอร์พูล ในทีมชุดใหญ่ไปเกิน 5 นัดแล้ว ทำให้เจ้าตัวจะมีโอกาสได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์และรับเหรียญรางวัลกับทีม “หงส์แดง” อย่างเป็นทางการ
ผลงานเด่นของทาคุมิ มินามิโนะ กับ ลิเวอร์พูล
ลงเล่นกับลิเวอร์พูล
ลงสนาม 5 นัด ยิง 0 ประตู (อัปเดต 1 ก.ค.)
แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย
ชินจิ คากาวะ
แข้งทีมชาติญี่ปุ่น ย้ายจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2012-2013 และทันทีที่ย้ายมา ก็ได้สัมผัสถ้วยแชมป์กับทีม “ปิศาจแดง” ในทันที
ชินจิ คากาวะ ย้ายจากเซเรโซ โอซากา มาร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แม้ว่าเขาจะได้รับอาการบาดเจ็บในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่ย้ายมาอยู่กับดอร์ทมุนด์ แต่ทั้งสองฤดูกาลที่เขาอยู่กับทีม “เสือเหลือง” ก็สามารถช่วยทีมให้คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สองสมัยติดต่อกัน ก่อนที่แข้งรายนี้จะย้ายมาอยู่กับแมนยูฯ ด้วยสัญญา 4 ปี
ฤดูกาลแรกกับแมนยูฯ คากาวะ โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยยิงไป 6 ประตู จากการลงสนาม 20 นัด ทำให้เขาได้สัมผัสถ้วยแชมป์ในลีกยุโรป 3 สมัยติดต่อกัน และในฤดูกาลนี้ เขายังสร้างประวัติศาสตร์ เป็นแข้งเอเชียคนแรก ที่ทำแฮตทริกในพรีเมียร์ลีกได้ ในเกมที่เอาชนะ นอริช ซิตี้ 4-0 และนั่นคือ ครั้งเดียวที่เขาได้สัมผัสด้วยกับแมนยูฯ
ฤดูกาล 2014 คากาวะ ย้ายกลับไปอยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และเป็นกำลังหลักให้สโมสร ก่อนที่ปัจจุบัน ด้วยช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป คากาวะ ยังคงค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรป แต่อยู่กับทีม “รีล ซาราโกซา” ในเซกุนดา ลีก สเปน
ผลงานเด่นของชินจิ คากาวะ กับ แมนยูฯ
ลงเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 38 นัด ยิง 6 ประตู
แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย (2012-2013)
ผลงานฤดูกาล 2012 – 2013 ลงเล่น 26 นัด ยิง 6 ประตู
ชินจิ โอกาซากิ
ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นอีกคน ที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งในฤดูกาล 2015-2016 เขาคือฟันเฟืองสำคัญ ที่ทำให้เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ไปครองอย่างพลิกความคาดหมาย
ก่อนหน้านั้น โอกาซากิ ลงเล่นในบุนเดสลีกา กับ สตุตการ์ท และไมนซ์ 05 ก่อนที่ในฤดูกาล 2015-2016 ด้วยค่าตัวราว 7 ล้านปอนด์
ฤดูกาลแรกของเขากับเลสเตอร์ กลายเป็นปีที่น่าจดจำทันที เมื่อเขาคือตัวเลือกแรกในการลงสนามของ “เคลาดิโอ รานิเอรี” ซึ่งสถิติบ่งชี้ว่า เขาเป็นเครื่องจักรสำคัญ เมื่อลงสนามไป 36 นัดในพรีเมียร์ลีก ยิงไป 5 ประตู ช่วยทีมจิ้งจอกสยามเถลิงบัลลังก์อย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนที่สองในประวัติศาสตร์ ที่ได้สัมผัสถ้วยพรีเมียร์ลีก
จากนั้น ในฤดูกาล 2019-2020 เลสเตอร์ ตัดสินใจปล่อยตัวแข้งรายนี้ออกจากทีม ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ อวยส์กา ในเซกุนดาลีก เป็นทีมล่าสุด และเป็นกำลังหลักของทีมจากสเปนในปัจจุบัน
ผลงานเด่นของชินจิ โอกาซากิ กับ เลสเตอร์
ลงเล่นกับ เลสเตอร์ ซิตี้
114 นัด ยิง 14 ประตู
แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย (2015-2016)
ผลงานฤดูกาล 2015-2016 ลงเล่น 36 นัด ยิง 5 ประตู
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง